ใหม่ Honda Brio อีโค่คาร์ราคาถูก

ในแวดวงของตลาดรถยนต์ขนาดเล็กในเมืองไทยนั้น คงไม่มีใครไม่รู้จัก Honda Brio (ฮอนด้า บริโอ้) อีโค่คาร์ขาใหญ่จากแดนปลาดิบ ที่มีราคาที่แสนจะยั่วยวนก็ทำให้มันเป็นที่สนใจของใครหลายๆคนอยู่ในเวลานี้ แต่ทว่าในแวดวงของตลาดรถยนต์ขนาดเล็กในเมืองไทยนั้น ต้องยอมรับกันเลยว่ามีการแข่งขันกันสูงในปัจจุบัน แต่ละค่ายก็เข็นเอารถยนต์แนวฮัทแบคออกมาตอบสนองความต้องการของไลฟ์สไตส์การขับขี่ในยุคใหม่กันอย่างไม่ยอมกัน สำหรับค่ายดังอย่าง ฮอนด้า ก็ไม่พลาดที่จะส่ง ฮอนด้า บริโอ้ รุ่นใหม่ออกมาสู้กับค่ายรถยนต์อื่นๆ กับเขาบ้าง ด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและตอบสนองความต้องการของการใช้งานได้อย่างครบครัน

สำหรับสีนั้น Honda Brio ก็มาพร้อมกับเฉดสีรุ่นใหม่ถึง 7 เฉดสีสดใสให้ได้เลือกกันอย่างจุใจทั้ง สีเขียวเฟรชไลน์ (เมทัลลิก), สีขาวทาฟเฟต้า, สีแดงแรลลี่, สีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก), สีดำคริสตัล (มุก), สีฟ้าเซรูเลียน และสีเงินอลาบาสเตอร์ (เมทัลลิก)

ราคา Honda Brio

ราคา Honda Brio S MT 436,500 บาท
ราคา Honda Brio S AT475,500 บาท
ราคา Honda Brio V MT 472,500 บาท
ราคา Honda Brio V AT 511,500 บาท
ราคา ฮอนด้า บริโอ้ V Limited AT 533,500 บาท

ราคา ฮอนด้า บริโอ้ อเมซ 2019

ราคา ฮอนด้า บริโอ้ อเมซ V CVT 517,000 บาท.
ราคา ฮอนด้า บริโอ้ อเมซ SV CVT 579,000 บาท.

ดีไซน์ภายนอก Honda Brio

ในส่วนของการออกแบบภายนอกของ Honda Brio นั้นถือว่ามีการออกแบบที่สวยงามและน่าสนใจเป็นอย่างมาก เมื่อมันมีโครงสร้างความยาวตลอดทั้งคันจะอยู่ที่ 3,610 มม. ส่วนความกว้างนั้นอยู่ที่ 1,680 มม. โดยจะมีความสูงที่ 1,485 มม. ส่วนฐานล้อนั้นอยู่ที่ 2,345 มม. โดยที่มีระยะห่างระหว่างล้อคู่หน้าอยู่ที่ 1,480 มม. ส่วนคู่หลังอยู่ที่ 1,465 มม. โดยที่มีความสูงใต้ท้องรถอยู่ที่ 150 มม. ทางด้านของน้ำหนักรถโดยรวมจะอยู่ที่ 953 กิโลกรัม พร้อมกับความจุถังน้ำมันขนาด 35 ลิตร

โดยในส่วนของตัวบอดี้ ฮอนด้า บริโอ้ ก็ดีไซน์ได้โฉบเฉี่ยวสะดุดตาในแบบใหม่เลยทีเดียว ซึ่งมาพร้อมกับไฟหน้าแบบฮาโลเจน ที่สอดรับกับกระจังหน้าแบบโครเมียมที่โดดเด่นสะดุดตา โดยที่มีกันชนหน้าและกันชนหลังเป็นสีเดียวกับตัวรถ นอกจากนี้แล้วยังมีไฟตัดหมอกคู่หน้า ที่ช่วยเสริมทัศนวิสัยในการขับขี่ได้อย่างดี ส่วนกระจกมองข้างนั้นก็มีสีเดียวกับตัวรถ รวมไปถึงมือจับประตูด้านนอกก็เป็นแบบเดียวกัน พร้อมกันนี้ก็ยังมีระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าเป็นแบบหน่วงเวลา แต่ในส่วนของด้านหลังจะเป็นแบบธรรมดา โดยที่มีไล่ฝ้าที่กระจกหลังอีกด้วย และเสริมความสปอร์ตดัวยสปอยเลอร์หลัง และตกแต่งด้านท้ายด้วยคิ้วโครเมียม ส่วนวงล้อ Honda Brio จะเป็นแบบอัลลอยขนาด 14 นิ้ว

ดีไซน์ภายใน ฮอนด้า บริโอ้

มาดูกันต่อที่การออกแบบภายในห้องโดยสารของ Honda Brio นั้นถือว่าได้รับการออกแบบให้มีความกว้างขวางสะดวก โดยภายในใช้สีเบจ ส่วนสีของเบาะนั่งจะเป็นแบบทูโทน โดยที่มีเบาะนั่งด้านหลังสามารถปรับได้แบบชิ้นเดียว ช่วยเพิ่มพื้นที่ในการเก็บสัมภาระได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย พร้อมกับมีแผ่นกั้นห้องสัมภาระ โดยในส่วนของแผงคอนโซลนั้นก็ถือว่ามีความสวยงามและออกแนวสปอร์ตเร้าใจ โดยมีมาตรวัดเป็นแบบสปอร์ตที่แสดงอัตราการสิ้นเปลืองของพลังงานเชื้อเพลิงและมีไฟแสดงผลการขับขี่ในแบบประหยัด Eco Indicator พร้อมกับพวงมาลัยก็สามารถที่จะปรับสูง-ต่ำได้

โดยที่ในส่วนของกระจกมองข้างนั้นสามารถปรับด้วยระบบไฟฟ้า ในส่วนของกระจกมองหลังก็ยังเป็นแบบตัดแสงได้อีกด้วย โดยที่ในส่วนของแผงบังแดดและไฟในห้องโดยสาร พร้อมทั้งในส่วนของแผงควบคุมระบบปรับอากาศจะมีการตกแต่งด้วยเมทัลลิก เช่นเดียวกันกับบริเวณเกียร์ และยังเสริมด้วยระบบนำทางเนวิเกเตอร์รุ่นใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมกับเครื่องเสียงที่มีลำโพงคู่หน้า และช่องสำหรับเชื่อมต่อ USB และช่อง AUX สำหรับต่ออุปกรณ์เสริมต่างๆ

นอกจากนี้ก็ยังมีระบบปรับอากาศที่เย็นสบายทุกที่นั่ง พร้อมกับเซ็นทรัลล็อก และมีกุญแจรีโมทนิรภัยแบบ Immobilizer ที่มีสัญญาณกันขโมยพร้อมด้วยล็อกกันเด็กประตูหลัง และกุญแจแบบ Wave Key โดยที่มีความปลอดภัยด้วยถุงลมอัจฉริยะด้านหน้าคนขับเป็นแบบ i-SRS ส่วนถุงลมด้านหน้าผู้โดยสารจะเป็นแบบ SRS พร้อมกับเข็มขัดนิรภัยคู่หน้าเป็นแบบดึงกลับอัตโนมัติ โดยที่เป็นแบบ 3 จุด 2 ตำแหน่ง ส่วนด้านหลังจะเป็นแบบ 3 จุด 2 ตำแหน่ง และ 2 จุด 1 ตำแหน่ง เรียกว่ามีความปลอดภัยสูงเป็นอย่างยิ่ง สำหรับ Honda Brio อีโค่คาร์รุ่นเล็กจากค่ายฮอนด้าคันนี้

สมรรถนะความปลอดภัยอีโค่คาร์รุ่นนี้

ทางด้านของสมรรถนะนั้น ถึงแม้ว่า Honda Brio รุ่นใหม่นั้นจะเป็นรถยนต์ขนาดเล็กก็ตาม แต่มันก็มาพร้อมกับขุมกำลังเครื่องยนต์ที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง โดยเป็นเครื่องยนต์แบบ ซิงเกิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ จำนวน  4 สูบ แบบ  i-VTEC  โดยที่มีขนาดความจุกระบอกสูบ 1.2 ลิตร พร้อมกับระบบหัวฉีดแบบ PGM-FI โดยที่มีขนาดกระบอกสูบ X ช่วงชัก อยู่ที่ 73.0 มม. X 71.6 มม. ส่วนอัตราการอัดจะอยู่ที่ 10.2 : 1 และที่สำคัญคือสามารถให้กำลังถึง 90 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที ในขณะที่แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 110 นิวตันเมตรที่ 4,800 รอบต่อนาที

ทางด้านของความประหยัดของ ฮอนด้า บริโอ้ ก็ถือว่าดีเยี่ยมโดยมันมีอัตราการประหยัดน้ำมันอยู่ที่ 20 กิโลเมตรต่อลิตร พร้อมกันนี้ก็มีระบบควบคุมการเปิด-ปิดด้วยลิ้นปีกผีเสื้อแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือที่เรียกว่า DBW สำหรับระบบเกียร์ Honda Brio ก็เป็นแบบ CVT พร้อมด้วยระบบ Shifting Control of Cornering Gravity โดยมันจะทำงานผสานกับระบบคลัทช์แบบทอร์คคอนเวอร์เตอร์ที่เป็นแบบระบบล็อกอัพ ได้อย่างลงตัวและเต็มประสิทธิภาพ โดยที่จะมีอัตราการทดเกียร์จากเกียร์ที่ 1 ถึง 5 อยู่ที่ 2.419 ถึง 0.421 โดยที่เกียร์ถอยหลังอยู่ที่เรท 2.537 ถึง 1.516 ในส่วนของเฟืองท้ายจะมีเรทอยู่ที่ 4.619 ทางด้านของระบบควบคุมรถนั้น ก็มาพร้อมกับระบบพวงมาลัยเป็นแบบแร็ค แอนด์ พิเนียนพร้อมด้วยเพาเวอร์ผ่อนแรงแบบไฟฟ้า EPS โดยมีความสามารถหมุนได้สูงสุดถึง 3.42 รอบและ ฮอนด้า บริโอ้ มีรัศมีวงเลี้ยงที่ 4.5 เมตร

ส่วนช่วงล่างนั้นก็ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี ที่ถึงแม้ว่า Honda Brio เป็นรถยนต์รุ่นเล็ก แต่ก็เต็มไปด้วยความแข็งแกร่ง โดยมีระบบกันสะเทือนที่ด้านหน้าเป็นแบบแม็กเฟอร์สัน สตรัทอิสระ พร้อมด้วยเหล็กกันโคลง ส่วนที่ด้านหลังนั้นจะเป็นแบบทอร์ชั่นบีมแบบ H-shape ทางด้านของความปลอดภัยนั้นก็มีระบบเบรกแบบดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อนที่ด้านหน้า ส่วนด้านหลังจะเป็นแบบดรัมเบรก พร้อมเสริมด้วยระบบเบรกแบบ ABS ที่ทำงานควบคู่กับระบบกระจายแรงเบรกแบบ EBD โดยที่มีคานเหล็กเสริมรับแรงกระแทกด้านข้างและไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED อีกด้วย ถือว่า ฮอนด้า บริโอ้ มีความปลอดภัยสูงเลยทีเดียวสำหรับรถยนต์เล็กๆรุ่นนี้
 ที่มา http://th-bigbike.com/honda-price-list/

สเปคและราคา CB150R THE STREETSTER มีให้เลือก 3 เฉดสี

มอเตอร์ไซค์รุ่นเล็กแนวนีโอสปอร์ตคาเฟ่ HONDA CB150R THE STREETSTER รุ่นปี 2019 ถือว่าเป็นมอเตอร์ไซค์แนวเน็คเก็คที่มีความโดดเด่นอีกหนึ่งรุ่น อีกทั้งยังมาพร้อมกับโฉมใหม่ปี 2019 อีกด้วย จึงทำให้ใครหลายคนอยากเป็นเจ้าของมอเตอร์ไซค์คันนี้ อีกทั้งยังมีราคา HONDA CB150R THE STREETSTER ไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับมอเตอร์ไซค์ทั่วไป

การออกแบบ HONDA CB150R THE STREETSTER มาพร้อมกับความโฉบเฉี่ยว ดุดันทุกครั้งเมืองได้สำผัส มีกลื่นอายของความเป็นสปอร์ตอย่างลงตัว ถือว่าเป็นบิ๊กไบค์แนวเน็คเก็คสไตล์นีโอสปอร์ตคาเฟ่ที่ควบคุมตัวรถได้ไม่ยากนัก มาพร้อมไฟหน้าแบบกลมที่ดูแล้วสะดุดตาอย่างยิ่ง มาตราวัดสไตล์สปอร์ตล้ำบอกการทำงานของเครื่องยนได้อย่างครบถ้วน หากคุณกำลังมองหามอเตอร์ไซค์เท่ ๆ สักคัน HONDA CB150R THE STREETSTER สามารถตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันของคุณได้อย่างลงตัว
สีสันภายนอก HONDA CB150R THE STREETSTER มีให้เลือก 3 เฉดสี  คือ สีขาวดำ ( เป็นสีใหม่ของปีนี้ ) สีแดงดำ และสี สีดำ ที่มาพร้อมกับเอกลักษณ์เฉพาะตัว ใครชอบสีไหนก็สามารถเป็นเจ้าของได้ตามที่คุณชอบได้เลย

ราคา CB150R THE STREETSTER 2019

ราคา CB150R รุ่น Standard ราคา 99,800 บาท.
ราคา CB150R รุ่น ABS ราคา 109,800 บาท.

การออกแบบ HONDA CB150R THE STREETSTER มีการใช้ไฟหน้าแบบกลม Full LED Lighting System เท่ ด้วยไฟหน้าทรงกลมแบบ LED ไฟท้ายใช้แบบ Full LED Lighting System ที่ส่องสว่าง LED รอบคัน มั่นใจยิ่งขึ้น เรือนไมล์ใช้แบบ LCD พร้อมไฟสัญญาณครบครัน อาทิ แถบแสดงความเร็วรอบเครื่องยนต์ ไฟเตือนรอบเปลี่ยนเกียร์ นาฬิกาดิจิตอลพร้อมฟังก์ชันจับเวลาการขับขี่ และไฟแสดงอัตราการประหยัดน้ำมัน ช่วยให้ทุกทริปของคุณขี่สนุก มีความหมายยิ่งขึ้น

ถังน้ำมันดีไซน์ดุดันแบบ Muscle พร้อมกราฟิกใหม่สไตล์ที่มองแล้วสะดุดตายิ่งนัก ฝาถังน้ำมันของ HONDA CB150R THE STREETSTER ดีไซน์ให้เรียบเนียนไปกับตัวรถแบบ Airplane เครื่องยนต์ถอดแบบจากเทคโนโลยีสนามแข่งโมโตจีพี ด้วยขุมพลังหัวฉีด PGM-FI 150 ซีซี DOHC 4 วาล์ว ลูกสูบเคลือบโมลิบดินั่ม พร้อมเกียร์ 6 สปีด สุดเร้าใจ รีดความแรงเร้าใจในทุกจังหวะการขับขี่ สวิงอาร์มหลังทำจากเหล็กมวลเบา แข็งแกร่ง น้ำหนักเบา ให้การทรงตัวดี รองรับแรงขณะขับขี่ได้ดีเยี่ยมมากกว่าที่เคย

เป็นยังไงบ้างสำหรับ HONDA CB150R THE STREETSTER ถือว่าเป็นมอเตอร์ไซค์ราคาถูกที่น่าจับตามองอีกหนึ่งรุ่น การออกแบบก็ดุดัน ปราดเปรียว มีกลิ่นอายความเป็นสปอร์ตได้อย่างลงตัว โดยราคา CB150R THE STREETSTER ถือว่าไม่แพงอีกด้วย มาพร้อมกับ 3 เฉดสีสุดเท่

ที่มา http://th-bigbike.com/honda-cb150r-the-streetster/

เฉดสีและราคา Kawasaki Z300 เน็คเก็ตไบค์สไตล์สปอร์ต

เฉดสีและราคา Kawasaki Z300 เน็คเก็ตไบค์สไตล์สปอร์ต

ที่มา http://th-bigbike.com/kawasaki-z300/

หล่อรุ่นเล็กราคาโดนใจ Kawasaki Z300 บิ๊กไบค์สไตล์เน็คเก็ตที่มาพร้อมกับความสดใหม่จากค่ายคาวาซากิ ที่ออกปบบมาได้อย่างดุดันลงตัว ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็เท่ไม่เป็นรองใคร เป็นบิ๊กไบค์รุ่นเล็กที่ราคาเป้นมิตรกับชาวไบค์เกอร์ทุกคนเป็นอย่างมาก และนี่แหละครับ เน็คเก็ตไบค์ที่น่าสนใจในตลาดรถปี 2015

มาพูดถึงราคา Z300 กันบ้าง ต้องบอกว่าเป็นราคาที่ไม่ถึงสองแสนบาท เพราะว่าเจ้านี่มีค่าตัวเพียงแค่ 172,000 บาท เป็นราคาที่ลงตัวสุดๆไปเลยทีเดียว สำหรับสีสันก็ต้องบอกว่าสวยทุกสี โดย Kawasaki Z300 มาพร้อมกับ เขียวดำ บ่งบอกถึงบิ๊กไบค์ค่ายคาวาซากิได้เป็นอย่างดี ต่อมาเป้นสีเหลือง ที่ดูโดดเด่นไม่แพ้ใคร ตัดกับลายกราฟฟิกสีดำแล้วมันช่างลงตัวจริงๆ

การออกแบบก็โดดเด่นจริงๆสำหรับรุ่นนี้ ด้านข้างมีการใช้ลายกราฟฟิคตัว Z เพิ่มความเท่ได้เป็นอย่างดี ท่อไอเสียขนาดกลางพร้อมที่วางเท้าที่มาพร้อมกับดีไซน์สปอร์ต เท่ทุกองศา ดุดันทุกมุมมอง โชว์เส้นสายความเป้นสปอร์ตได้อย่างชัดเจน Kawasaki Z300 เป็นบิ๊กไบค์ขนาดเล็กที่มีความชัดเจนในด้านดีไซน์สุดๆไปเลยครับ

ถือว่าเป็นรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์สไตล์เน็คเก็ตไบค์รุ่นใหม่ในตลาดรถ
BIGBIKE 2015 ที่น่าสนใจมากๆอีกหนึ่งคันสำหรับ Kawasaki Z300 ที่พ่วงเครื่องยนต์ 296 ซีซีมาด้วย
โดยสามารถสร้างกำลังได้ถึง 29 กิโลวัตต์ที่ 11000 รอบต่อนาทีและมีแรงบิดที่
27 นิวตั้นเมตรที่ 10000 รอบต่อนาที ช่วงล่างเซฟตี้ด้วยซัสเพนชั่นหน้าหลังสุดแข็งแรงและระบบเบรคหน้าหลังแบบดิสก์เบรคที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ของคุณให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น  ถือว่าเป็นรุ่นที่น่าเป็นเจ้าของมากๆครับ

หากใครต้องการบิ๊กไบค์สักคันแต่ยังไม่แน่ใจว่าจะชอบรึเปล่า คันนี้น่าสนใจ ราคาก็ไม่แพง แถมสวยงามดุดันสุดๆไปเลย ถือว่าเป็นรุ่นที่น่าเป็นเจ้าของมากๆครับ สำหรับ Kawasaki Z300 บิ๊กไบค์ค่ายสีเขียวจากแดนปลาดิบคันนี้

เฉดสีและราคา Ninja 250SL ABS บิ๊กไบค์รุ่นเล็กสไตล์สปอร์ต

เฉดสีและราคา Ninja 250SL ABS บิ๊กไบค์รุ่นเล็กสไตล์สปอร์ต

ที่มา http://th-bigbike.com/kawasaki-ninja-250sl-abs/

นินจารุ่นเล็กสเปคโดนใจ ที่มาพร้อมกับราคาที่น่าคบอย่างยิ่ง สำหรับ Kawasaki Ninja 250SL ABS รุ่นปี 2019 ต้องบอกว่ามาพร้อมกับสีสันหลายสีให้เลือก ที่สำคัญการออกแบบภายนอกนั่นดุดันโดนใจใครหลายๆคน เพราะว่าบิ๊กไบค์รุ่นนี้มาพร้อมกับความสปอร์ตทุกมุมมอง เส้นสายโฉบเฉี่ยว พร้อมลายกราฟฟิกสุดเจ๋ง จึงทำให้ไม่ดูเรียบจนเกินไป และนี่แหละครับ Kawasaki Ninja 250SL ABS บิ๊กไบค์สไตล์สปอร์ตจากค่ายคาวาซากิที่พร้อมทำตลาดในบ้านเราแล้ววันนี้

สำหรับราคา Ninja 250SL ABS ต้องบอกว่าเป็นบิ๊กไบค์ราคาถูกอีกรุ่นที่น่าสนใจ เพราะว่าราคา Ninja 250SL ABS รุ่นนี้ มีราคาเพียงแค่ 121,000 - 125,000 ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่โดนใจไบค์เกอร์มือใหม่ หรือคนที่งบน้อยอยากจะลองขี่บิ๊กไบค์ก็น่าสนใจไม่น้อย ภายนอกมีให้เลือกถึง 5สีด้วยกัน นั่นคือ สีเขียวลาย WSBK สีเขียว สีดำ สีขาว และสีแดงสุดแจ่ม นั่นเอง ถือว่าสีสันภายนอกและราคาสามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

การออกแบบภายนอก Kawasaki Ninja 250SL ABS ก็มาพร้อมความสปอร์ตเต็มพิกัด ุคงแม้จะคันเล็กไปหน่อย แต่ก็ดูโฉบเฉี่ยวยิ่งนัก มาพร้อมกับไฟหน้าดูออล เพิ่มความเท่ไปอีกขั้น มีกระจกบังลมหน้าที่กันลมได้เป็นอย่างดี ตัวถังก็โค้งมนมีสไตล์อย่างเห็นได้ชัด มาตราวัดก็สวยงามดูดี แสดงข้อมูลอย่างชัดเจน สามารถนั่งได้สองคน โดยผู้ซ้อนจะมีตำแหน่งที่สูงกว่าผู้ขับขี่ และนี่ภาพรวมการออกแบบภายนอกของ Ninja 250SL ABS ครับ

สำหรับขุมกำลัง Ninja 250SL ABS มาพร้อมกับ เครื่องยนต์ 1กระบอกสูบ โดยมีปริมาณกระบอกสูงที่ 249ซีซี 4จังหวะ พร้อมวาล์ว4วาล์ว พร้อมระบบเกียร์ธรรมดา 6สปีด พร้อมระบบสตาร์ทไฟฟ้า จ่ายเชื้อเพลิงผ่านระบบหัวฉีด รองรับน้ำมันได้ถึง 17ลิตร อีกด้วย

และนี่ก็คือ Kawasaki Ninja 250SL ABS บิ๊กไบค์สไตล์สปอร์ตราคาถูก หากใครกำลังอยากลองขี่บิ๊กไบค์แต่ยังไม่มั่นใจว่าจะชอบรึเปล่า หากซื้อแพงๆอยากจะทำให้เสียเงินฟรีๆได้ มือใหม่เริ่มจากรุ่นเล็กดีกว่าครับ Ninja 250SL ABS รุ่นนี้น่าสนใจจริงๆแถมมีเฉดสีให้เลือกถึง 5สีเลยทีเดียว

เฉดสีและราคา CB650F บิ๊กไบค์สไตล์สปอร์ต

เฉดสีและราคา Honda CB650F บิ๊กไบค์สไตล์สปอร์ต

ที่มา http://th-bigbike.com/honda-cb650f/

บิ๊กไบค์สไตล์สปอร์ตจากค่ายปีกนก CB650F ที่ยังคงความร้อนแรงและทำตลาดได้เป็นอย่างดี สำหรับ HONDA CB650F ความสดใหม่จากค่ายฮอนด้าที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากญี่ปุ่น สำหรับซีรีย์ CBR แล้ว ถือว่าเป็นรุ่นที่นำมาทำตลาดในไทยมาอย่างช้านาน คงมีไม่กี่คนที่ไม่รู้จักซีรีย์นี้ เพราะว่ามีความสวยงาม สปอร์ตดุดัน และยังมีราคาน่าคบหาอีกด้วยครับ

มาดูที่เฉดสี CB650F กันก่อนเลย ขอเริ่มต้นกันที่สียอดนิยม สีแดง ต้องบอกว่าเฉดสีนี้เป้นสีที่น่าสนใจจริงๆ ยอดขายบ่งบอกถึงความนิยมได้เป็นอย่างดี มาต่อกันที่สีที่สอง สีดำครับ เรียกได้ว่าดำทั้งคัน แต่ก็มีชาวไบค์เกอร์หลายๆคนชอบสีนี้เช่นกัน เป็นสียอดนิยมของบิ๊กไบค์แต่ละรุ่นต้องมีสีนี้ ทางค่ายฮอนด้าไม่รอช้าจัดมาใน CB650F ให้สิงห์นักบิดมาพร้อมกับสองสีที่แตกต่าง แต่ว่าลงตัวทั้งสองสีครับ

ด้านราคา CB650F มีการเปิดตัวมาที่ สามแสนบาท เท่านั้น แต่ว่าเป็นราคาแนะนำยังไม่ได้รวมกับจด พ.ร.บ. และประกันภัยแต่อย่างใด หากสนใจจริงๆสามารถติดต่อทางดิลเลอร์เพื่อขอรับโปรโมชั่นที่หลายๆดิลเลอร์จัดกันอย่างโดนใจ

สรุปแล้วถือว่า HONDA CB650F ยังคงเป็น BIGBIKE น่าสนใจอยู่ ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 649 ซีซี ในราคา 3 แสนถือว่าน่าสนใจจริงๆ อีกทั้งยังสร้างพละกำลังได้ 87 แรงม้า 64 กิโลวัตต์ที่ 11000 รอบต่อนาที และมีแรงบิดที่ 63 นิวตั้นเมตรที่ 8000 รอบต่อนาที  ถือว่า CB650F เป็นบิ๊กไบค์ที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างคุ้มค่าแน่นอนครับ

New Honda CB650R เน็คเก็คไบค์สไตล์นีโอคาเฟ่ ราคา 305,000.

อีกหนึ่งบิ๊กไบค์ที่น่าจับตามอง สำหรับ Honda CB650R เน็คเก็คไบค์รุ่นใหม่จากค่าย ฮอนด้า ที่มาพร้อมกับความสดใหม่ ต้องบอกว่าหลาย ๆ คนคงจะสะดุดตากับบิ๊กไบค์รุ่นนี้ เพราะว่ามาพร้อมกับการออกแบบแนวนีโอสปอร์ตคาเฟ่ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาดกลางที่ทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมกับระบบความปลอดภัยที่ครบครัน เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับการจับตามองจากไบค์เกอร์

เฉดสี HONDA CB650R 2019 มีให้เลือก 4เฉดสีด้วยกัน สำหรับราคา CB650R 2019 เน็คเก็คไบค์รุ่นใหม่คันนี้ โดยราคา CB650R มีราคาอยู่ที่ 305,000 บาท. ทุกเฉดสี

สีแดงแคนดี้ โคโมสเฟียร์เร้ด ( CANDY CHROMOSPHERE RED )

สีดำ กราไฟท์แบล็ค ( GRAPHITE BLACK )

สีน้ำเงินแมทยีนส์ บลูเมทัลลิค ( MAT JEANS BLUE METALLIC )

สีเงิน แมทครายตัน ซิลเวอร์ เมทัลลิค ( MAT CRYTON SILVER METALLIC )

การออกแบบถือว่าโดดเด่นสะดุดตา มีการดีไซน์แนวสปอร์ต พร้อมการจัดวางเครื่องยนต์ที่สวยงามอย่างเป็นระเบียบ มีการใช้แฮนด์บาร์ทรงสปอร์ต พร้อมกับกระจกมองข้างแบบสั้นที่ออกแบบมาได้อย่างพอเหมาะ ท่อไอเสียแบบสั่นเพิ่มความโฉบเฉี่ยวมีสไตล์ ตัวถังมีขนาดพอดีเส้นสายต่าง ๆ ตัดกันได้อย่างลงตัว มาตราวัดมีขนาดกลาง ๆ แสดงการทำงานได้อย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็น ระบบเกียร์, อัตราการเร่ง, ระดับเชื้อเพลิง, ความเร็วรอบ โดยใช้หน้าจอแอลซีดี ฟูลดิจิตอลแบล็คไลท์ เพิ่มความโฉบเฉี่ยวได้อย่างชัดเจน

โดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบกลมสไตล์คาเฟ่ พร้อมกับไฟเลี้ยวแบบแยก ด้านท้ายมีการใช้ไฟแอลดีดีแบบซิงเกิ้ลขนาดใหญ่อยู่ใกล้กับบังโคลนหลัง  ส่องสว่างมองเห็นได้ชัดเจน เพิ่มความปลอดภัยไปอีกระดับ

สำหรับมิติภายนอก Honda CB650R มีความยาวอยู่ที่ 2,130 มม. และมีความกว้าง 780 มม. มีความสูง 1,075 ม. โดยรวมมีน้ำหนักอยู่ที่ 202 กิโลกรัม ถือว่ามีน้ำหนักที่พอเหมาะ สามารถควบคุมได้ง่าย ไม่หนักจนเกินไปนั่นเอง

มาดูความเข้มข้นของขุมกำลังของ HONDA CB650R กันบ้าง แรงถึงใจ โดยมีการใช้ขุมกำลังแบบ 4 สูบ 4 จังหวะ ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ 16 วาล์ว และมีปริมาตรกระบอกสูบ 649 ซีซี. ระบบเกียร์แบบ 6 สปีด มีการใช้ระบายความร้อนด้วยน้ำ สามารถสร้างสปีดสูงสุด 95.2 แรงม้า และมีความเร็วรอบที่ 12,00 รอบต่อนาที มีแรงบิด 64 นิ้วตั้นเมตรที่ 8,500 รอบต่อนาที ระบบสตาร์ทด้วยระบบสวิตช์ไฟฟ้า มีอัตราการอัดที่ 11.6:1 สำหรับเชื้อเพลิงสามารถรองรับการจุเชื้อเพลิงได้ที่ 15.4 ลิตร เลยทีเดียว

มาถึงะบบความปลอดภัยกันบ้าง โดย HONDA CB650R ที่มีการใช้โช๊คอัพหน้าแบบหัวกลับ SHOWA ขนาด 41 มิลลิเมตร ด้านหลังใช้สวิงอาร์มกับโช๊คขนาด 43.5 มิลลิเมตร โมโนช็อค ซึ่งสามารถปรับแบบพรีโหลดได้ ด้านระบบเบรค ล้อหน้าใช้ดูออลเบรคขนาด 310 มิลลิเมตร ปั๊มเรเดียลเมาท์คู่ NISSIN พร้อมระบบเบรก ABS ส่วนล้อหลังใช้แบบซิสเกิ้ลดิส์ก์ขนาด 240 มิลลิเมตร โดยมีการใช้ยางขนาดใหญ่ โดยยางหน้าใช้แบบ 120/70-ZR17 M/C ยางหลัง 180/55-ZR17 M/C ช่วยในการยึดเกาะถนนได้เป็นอย่างดี

โดยรวมถือว่า Honda CB650R เป็นบิ๊กไบค์ที่โดดเด่นไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการออกแบบและสมรรถนะที่เร้าใจ เป็นเน็คเก้คไบค์ขนาดกลางที่มีความปราดเปรียวคล่องตัว โดยมีการออกแบบสไตล์เดียวกันกับ CB1000R สำหรับสาวกสปอร์ตนีโอคาเฟ่ไม่ควรพลาด

ที่มา http://th-bigbike.com/honda-cb650r/

ข้อมูลและราคา Ducati Monster 1200 บิ๊กไบค์สไตล์เน็คเก็ค

ข้อมูลราคา Ducati Monster 1200 อีกหนึ่งปีศาจตัวร้ายจากอิตาลี ที่มาพร้อมกับการดีไซน์ที่สวยงาม เป็นอีกหนึ่งรุ่นจากค่าย ดูคาติ ที่มีคนนิยมอย่างมาก เป็นบิ๊กไบค์แนวเน็คเก็คที่น่าจะเป็นที่รู้จักและมียอดขายมากที่สุดอีกหนึ่งรุ่น ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการดีไซน์ ความสวยงาม สมรรถนะ ถือว่า Ducati Monster เกือบทุกรุ่นได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

ภายนอกของ Ducati Monster 1200 โดดเด่นเห็นชัดด้วยตัวถังสีแดงที่สะท้อนความเป็น ตัวต้นของคุณได้ดีเยี่ยมแน่นอน ด้วยถังน้ำมันขนาดใหญ่ที่ออกแบบมาให้มีความกระชับพื้นที่และเพิ่มเส้นสายความโฉบเฉี่ยวด้วยดีไซน์ที่ทันสมัยสไตล์อิตาลี เมื่อมองลงมาอีกนิดจะเห็นโครงเหล็กสีแดงที่ได้ทรงสวยงามพร้อมกับเครื่องยนต์ที่มีการจัดวางอย่างสวยงามได้สัดส่วน เหมือนกับคนที่เล่นกล้ามแล้วมีมัดกล้ามออกมาอย่างสวยงามยังไงยังงั้นเลยทีเดียว

ราคา Ducati Monster ทุกรุ่นที่มีขายในตลาดรถ

ราคา Ducati Monster 797 Red  409,900 บาท.

ราคา Ducati Monster 797 White / Dark Stealth 419,900 บาท.

ราคา Ducati Monster 797 Red / Dark Performance 444,900 บาท.

ราคา Ducati Monster 797 White / Performance 454,900 บาท.

ราคา ดูคาติ มอนสเตอร์ 821 Red 479,900 บาท.

ราคา ดูคาติ มอนสเตอร์ 821 Yellow / Black 489,900 บาท.

ราคา ดูคาติ มอนสเตอร์ 821 Performance Red 519,900 บาท.

ราคา ดูคาติ มอนสเตอร์ 821 Performance Yellow / Black 529,900 บาท.

สำหรับท่อไอเสียได้จัดวางอย่างลงตัว เป็นท่อไอเสียแบบทวิน ที่เพิ่มความเท่และดีกรีความแรงตั้งแต่มองเห็นครั้งแรก ทั้งความโค้งมนของช่วงหน้าและความใหญ่ของส่วนปลายทำให้เพิ่มพลังของ Ducati Monster 1200 ได้อย่างน่าทึ่ง ด้านหน้าจะเห็นได้ถึงความสวยงามของไฟหน้าแบบกลมขนาดใหญ่ที่ได้ติดตั้งอย่างได้ตำแหน่ง และไฟเลี้ยวที่แยกออกมา ทรงรีทั้งซ้ายและขวา ทั้งด้านหน้าและด้านหลังก็ได้ใช้ไฟเลี้ยวแบบเดียวกัน ส่วนไฟท้ายก็ส่องความสว่างได้อย่างชัดเจนทั้งกลางวันและกลางคืน เพิ่มความสนุกทุกครั้งที่เบรค ด้วยแสงแอลอีดีที่สวยสดงดงาม ของ Ducati Monster 1200  ไฟท้ายมีการดีไซน์อย่างสวยงาม มีเส้นสายของความเป็นสปอร์ตอย่างเห็นไดชัด และเนื่องจากบิ๊กไบค์คันนี้ออกแบบมาให้นั่งได้คนเดียว จึงมีการดีไซน์เบาะนั่งให้ใหญ่และนั่งสบายกว่าที่เคย

มาดูที่เครื่องยนต์ของ ดูคาติ มอนสเตอร์ 1200  กันบ้างนะครับ เป็นเครื่องยนต์ขนาดใหญ่พอตัวสำหรับบิ๊กไบค์คันนี้ ซึ่งมีการใช้เครื่องยนต์แบบ Testastretta 11ดีกรี แอลทวิน 4วาล์วต่อกระบอกสูบ แบบ Desmodromically actuated valves พร้อมระบายความร้อนด้วยระบบของเหลว liquid cooled แลพสำหรับความจุกระบอกสูบนั้นก็เยอะเต็มเปี่ยมที่ 1198.4ซีซี ซึ่งมีระยะการชักของกระบอกสูบที่ 106 x 67.9มม. และส่งต่ออัตราการอัดที่ 12.5:1 ตะลึงไปกับความแรงของ Ducati Monster 1200 ด้วยกำลังสูงสุดที่เหนือชั้น 99.3 กิโลวัตต์ (135 แรงม้า) ที่ 8,750 รอบต่อนาที และแรงบิดที่เร้าใจทั้งรอบต่ำและรอบสูงที่ 118 นิวตั้นเมตร (87 ลูกบาศก์ฟุต) ที่ 7,250 รอบต่อนาที

พร้อมจ่ายเชื้อเพลิงอย่างอัจฉริยะด้วยระบบเชื้อเพลิงแบบ Electronic fuel injection system พร้อมหัวฉีดขนาด 53มม.  ที่มาพร้อม full Ride by Wire และเทคโนโลยีความแรง Lightweight 2-1-2 system ดูคาติ มอนสเตอร์ 1200   ให้การส่งกำลังแบบนุ่มนวลผ่านระบบเกียร์แบบ 6 speed ที่มีอัตรา Primary drive อยู่ที่ 1.84:1 ที่มาพร้อมระบบคลัทช์เปียก มัลติเพล็ต พร้อม hydraulic control ช่วงล่างก็ปลอดภัยด้วยระบบกันเบรคเอบีเอส ทั้งหน้าและหลัง ยับยั้งการเบรคได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้การขับขี่บิ๊กไบค์คันนี้ สนุกยิ่งขึ้น

และนี่คือสุดยอดเน็คเก็คไบค์ที่หลาย ๆ คนก็หลงรักในการออกแบบและสมรรถนะที่ดุดันของมัน สำหรับราคา Ducati Monster 1200 ค่อนข้างจะแพงไปหน่อย แต่ก็เป็นแบรนด์ที่หลาย ๆ คนยอดรับในเรื่องสมรรถนะ ความปลอดภัย วัสดุชั้นดีที่ได้ใช้ในการออกแบบ

เฉดสีและราคา CBR250RR บิ๊กไบค์รุ่นเล็กสไตล์สปอร์ต

เฉดสีและราคา CBR250R บิ๊กไบค์รุ่นเล็กสไตล์สปอร์ต

ที่มา http://th-bigbike.com/cbr250rr/

บิ๊กไบค์สายพันธุ์สปอร์ตรุ่นเล็ก HONDA CBR250RR ที่มาพร้อมกับสมรรถนะที่ไม่ธรรมดา พร้อมกันนี้ยังมาพร้อมกับการออกแบบที่มีเส้นสายความเป็นสปอร์ตบ่งบอกความเป็นตัวตนได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็โดดเด่นสะกดทุกสายตา นี่คือ CBR250R บิ๊กไบค์ราคาถูกที่น่าจับตามองครับ

สำหรับเฉดสีภายนอก CBR250RR มีให้เลือกถึง 3สีด้วยกันนะครับ นั่นคือ สีดำ สีเทา และสีแดง สุดเท่ สำหรับราคาก็ไม่เกินหนึ่งแสนห้าหมื่นบาท โดยมีราคา CBR250RR อยู่ที่ประมาณ 117,000 – 145,000 บาท ถือว่าน่าสนใจจริงๆ สำหรับบิ๊กไบค์สไตล์สปอร์ตรุ่นเล็กจากค่ายฮอนด้ารุ่นนี้

สำหรับการดีไซน์ CBR250RR ต้องบอกว่าบ่งบอกความเป็นสปอร์ตอย่างเห็นได้ชัด ทุกสัดส่วนออกแบบมาได้อย่างดี มาพร้อมไฟหน้าแบบซิงเกิลขนาดใหญ่ และใช้ไฟเลี้ยวแบบแยก ด้านข้างจะเห็นได้ว่ามีทั้งสัญลักษณ์ HONDA  และ CBR ชื่อรุ่นและโลโก้พร้อมาตราวัดแบบดิจิตอลที่แสดงผลรวมไว้ในจุดเดียว เรียกว่าใช้งานได้อย่างครบครันและง่ายดาย พร้อมกันนี้ HONDA CBR250RR ยังมาพร้อมระบบดิสก์เบรคทั้งล้อหน้าและล้อหลัง มีทั้งแบบรุ่นเบรกเอบีเอสและเบรกธรรมดาอีกด้วย

สำหรับขุมกำลัง HONDA CBR250RR ใช้หัวฉีดพีจีเอ็ม-เอฟไอ ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ 4 วาล์ว 4 จังหวะ พร้อมกับปริมาตรกระบอกสูบที่ 249.6 ซีซี ที่ทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ ระบายความร้อนด้วยน้ำ มาพร้อมระบบเกียร์ 6สปีด ใช้คลัทช์เปียกหลายแผ่นซ้อนกัน พร้ออมความสะดวกสบายกับระบบสตาร์ทมือ

เรียกว่าเป็นมอเตอร์ไซค์ที่สวยงามคันหนึ่งเลยก็ว่าได้นะครับสำหรับ HONDA CBR250RR ยิ่งเอามาบวกลบคูณหารกับเครื่องยนต์ที่จัดเต็มด้วยระบบเครื่องยนต์ 4 วาล์ว 4 จังหวะ ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ปริมาตรกระบอกสูบ 249.6 ซีซี พร้อมอัตราการอัดที่ 10.7:1 ช่วงล่างนี่ยิ่งแข็งแรงมากๆ มาพร้อมเฟรมสุดแข็งแรงแบบไดมอนด์ทวินสปาร์ค สตีลเฟรมและซันเพนชั่นหน้าหลังสุดแข็งแรง นี่แหละครับสปอร์ตไบค์ราคาถูกมีอยู่จริง ฟินแน่นอนสำหรับการทำงานแบบนี้ ถือว่า CBR250RR เป็นสปอร์ตไบค์จากค่ายปีกนกที่ส่งตรงความเท่มาจากญี่ปุ่นกันเลยทีเดียว

ข้อมูลราคา Suzuki GSX-R125 MINI SPORTBIKE สุดคุ้มค่า

                

สำหรับ Suzuki GSX-R125 ( ซูซุกิ จีเอสเอ็กซ์-อาร์125 ) สปอร์ตไบค์รุ่นเล็กแห่งตระกูล GSX-R ที่มีความเท่ ปราดเปรียว พร้อมลุยในแนวสตรีท ที่คงความโฉบเฉี่ยวท้าทายบนท้องถนนที่สามารถใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน สาวกบิ๊กไบค์คงจะไม่พลาด

                BIGBIKE รุ่นนี้มีให้เลือกหลายสีสำหรับ Suzuki GSX-R125 รุ่นปี 2019 คือสีน้ำเงิน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสีน้ำเงินทั้งตัวถัง บังโคลน  ครอบไฟหน้า แฟริ่งด้านข้าง เสริมหล่อด้วยกราฟฟิคสุดเท่ที่ติดอยู่ด้านข้างได้อย่างเท่ โดดเด่นอย่างมาก , สีที่สองคือสีดำ ที่เน้นสีดำเป็นหลัก เสริมความเข้มดุดันด้วยกราฟฟิคสีแดงเล็กน้อยทั้งด้านหน้าและด้านหลัง , สีสุดท้ายคือสีขาว ที่เน้นเป็นสีขาวทั้งคันแต่จะมีลูกเล่นที่กราฟฟิคสีแดงตัดกับสีพื้นได้เป็นอย่างดีรวมถึงบังโคลนก็สีขาวเช่นกัน แล้วคุณคิดว่า Suzuki GSX-R125 รุ่นปี 2017 สีไหนจะเหมาะกับลุคของคุณมากที่สุด

ในเรื่องของการออกแบบ Suzuki GSX-R125 รุ่นปี 2019 มาพร้อมกับ กับการออกแบบในแนวสปอร์ต BIGBIKE  รูปทรงปราดเปรียว ไฟหน้าจะเป็นแบบ LED ที่มาพร้อมกับความทันสมัยด้วยระบบ Keyless ignition system มาตรวัดความเร็วจะเป็นแบบดิจิตอลที่บอกถึงระยะทาง ความเร็ว ระดับน้ำมัน นาฬิกา ตำแหน่งเกียร์ รวมถึงการแจ้งเตือนต่างๆ  เบาะจะแบ่งออกเป็น 2 ระดับอย่างชัดเจน

 เสริมความเท่ด้วยท่อไอเสียขนาดใหญ่ทรงสปอร์ต สำหรับที่พักเท้าจะมีขนาดที่พอเหมาะสามารถวางได้อย่างสบายแม้จะขับมาระยะไกล ส่วนกระจกมองข้างจะอยู่ตำแหน่งเดียวกันกับที่บังลม ด้วยการดีไซน์ที่เน้นการโฉบเฉี่ยวพร้อมสะกดทุกสายตาคนมองอย่าแท้จริง Suzuki GSX-R125 รุ่นปี 2019 เสริมหล่อด้วยล้อแม็กตัววายแบบ 10 ก้าน ทำให้ดูเท่ สปอร์ตเพิ่มมากขึ้น คุณคิดว่าอย่างไรกับการดีไซน์สไตล์นี้

สำหรับราคา Suzuki GSX-R125 เริ่มต้นอยู่ที่ 111,000 บาท ซึ่งราคานี้เป็นราคาเปิดตัวที่อังกฤษ  แต่เป็น BIGBIKE ที่มีขุมกำลังมากถึง 125 ซีซี อัตราเร่งสูงสุด 15 แรงม้า  เป็นระบบการจ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีด และการระบายความร้อนด้วยน้ำ ระบบช่วงล่างมีความปลอดภัยที่สูงและทนทานรองรับน้ำหนักได้ดี สมรรถนะในการยึดติดกับถนนออกแบบมาได้อย่างดี มั่นใจด้วยระบบเบรคเอบีเอสที่ไม่ต้องกังวลว่าจะลื่นหรือหยุดไม่อยู่ Suzuki GSX-R125 รุ่นปี 2019 เป็นรถที่สามารถวิ่งได้ทุกพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นทางเรียบ ทางลาด หรือขรุขระก็ตาม แล้วคุณคิดว่าอย่างไรกับสมรรถนะขนาดนี้

สำหรับราคา Suzuki GSX-R125 ราคาที่เปิดตัวเพียงแค่แสนต้นๆแต่เชื่อว่า หากมี BIGBIKE รุ่นนี้วางจำหน่ายในไทย คงจะมีให้เห็นตามท้องถนนแน่นอนสำหรับใครที่ชอบรถที่ไม่ใหญ่มากนักก็น่าจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกให้กับผู้ที่ชอบบิ๊กไบค์ขนาดเล็ก

ที่มา http://th-bigbike.com/suzuki-bigbike-price-list/