รถยนต์อเนกประสงค์ที่มาพร้อมกับระบบไฮบริดสำหรับราคารถยนต์ใหม่ Honda CR-Z ที่เป็นรถยนต์แนวสปอร์ตร้อนแรงโดยผสานการทำงานของเครื่องยนต์กับระบบมอเตอร์ไฟฟ้า IMA ทำให้มันกลายเป็นรถยนต์แนวสปอร์ตที่เปี่ยมไปด้วยพลังแห่งการขับเคลื่อนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในช่วงเวลากว่าทศวรรษที่ผ่านมานั้นถือว่าเทคโนโลยีของพลังงานทางเลือกได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตมนุษย์อย่างมาก รวมไปถึงในเรื่องของยานยนต์ที่มีระบบไฮบริดเข้ามาเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมบรรจุเข้าไปในรถยนต์รุ่นต่างๆมากขึ้น
แต่เราก็ยังไม่ค่อยจะได้เห็นรถยนต์แนวสปอร์ตที่จะหันมาใช้ระบบพลังงานทางเลือกอย่างระบบไฮบริดเข้ามาใช้ในการทำงานของเครื่องยนต์มากนัก แต่แล้วค่ายรถยนต์ดังอย่าง ฮอนด้า ก็ทำให้โลกต้องประหลาดใจเมื่อพวกเขาส่ง Honda CR-Z ทำให้สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำของรถยนต์แนวสปอร์ตไฮบริด ที่สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง โดยมาพร้อมกับ 4 เฉดสีให้คุณได้เลือกด้วยกัน ทั้ง สีเเดงมิลาโน, สีเทาสตอร์ม (เมทัลลิก) สีดำ และสีขาว พรีเมี่ยม (มุก)
ราคารถยนต์ Honda CR-Z
ราคารถยนต์ CR-Z JP 1,975,000 บาท
ตรวจสอบราคารถยนต์ใหม่รุ่นอื่นๆได้ที่>> ราคารถยนต์ใหม่
ดีไซน์ภายนอกรถยนต์ Honda CR-Z
สำหรับการออกแบบภายนอกของรถยนต์ Honda CR-Z นั้นก็ได้รับการดีไซน์ล้ำสมัย เฉียบคมทุกมุมมอง โฉบเฉี่ยวสวยงามเน้นความต่อเนื่อง ของเส้นสายตั้งแต่หัวจรดท้าย โดยที่มีตัวถังนิรภัยในแบบ จี-ฟอร์ซ คอนโทรล (G-Force Control) หรือ จี-คอน (G-CON) รวมถึงการดีไซน์ตัวรถที่เน้นให้รถมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ฐานล้อสั้นแบบ รถสปอร์ต และให้มีระยะห่างระหว่างล้อซ้าย-ขวา ทั้งคู่หน้าและหลังที่กว้าง ช่วยเพิ่มความมั่นคงของตัวรถในขณะขับขี่
ด้วยข้อดีข้อนี้ทำให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้อย่างแม่นยำ โลดแล่นได้อย่างอิสระตามความต้องการ พร้อมกับ ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ดุดันแนวสปอร์ตเต็มขั้น นอกจากนี้ยังมีกระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์เฉียบคม ช่วยเพิ่มมิติความสปอร์ตทุกมุมมอง ส่วนไฟท้ายก็เป็นแบบ LED สปอร์ตโฉบเฉี่ยวทุกองศา และนี่คือดีไซน์ภายนอกต้องบอกได้คำเดียวว่าสมบูรณ์แบบเป็นอย่างมาก
ดีไซน์ภายในรถยนต์ Honda CR-Z
สำหรับภายในห้องโดยสารของรถยนต์ Honda CR-Z นั้นมาพร้อมกับห้องโดยสารสไตล์สปอร์ตเร้าใจในทุกมิติ พร้อมด้วยเบาะที่นั่งที่ให้ความโอบกระชับ โดยเบาะที่นั่งแถวหลังสามารถปรับพับได้แบบแบนราบ ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้าย และมีหัวเกียร์ที่มีดีไซน์สปอร์ตเร้าใจเป็นอย่างยิ่ง โดยที่แผงคอนโซลนั้นก็มีการดีไซน์ในแบบสปอร์ตเร้าใจพร้อมกับมีมาตรวัดที่แสดงผลข้อมูลในการขับขี่ทุกอย่างชัดเจน
เพลิดเพลินไปกับทุกจังหวะด้วยระบบนำทางเนวิเกเตอร์ พร้อมเครื่องเล่นดีวีดี ส่วนทางด้านของความปลอดถัยนั้น ก็เรียกว่ามีความสมบูรณ์แบบเป็นอย่างมากด้วยถุงลมนิรภัยถึง 6 ตำแหน่ง รอบห้องโดยสารเลยทีเดียว ซึ่งในส่วนของถุงลมคู่หน้าจะเป็นแบบ Dual SRS ส่วนถุงลมด้านข้างคู่หน้าเป็นแบบอัจฉริยะ i-Side Airbags และเสริมด้วยม่านถุงลมด้านข้างที่ช่วยให้ความปลอดภัยมีสูงขึ้นอย่างมาก
สมรรถนะความปลอดภัย
ทางด้านสมรรถนะของเครื่องยนต์นั้น ต้องบอกก่อนเลยว่ารถยนต์ Honda CR-Z รุ่นล่าสุดนั้นเป็นการนำเทคโนโลยีรุ่นใหม่ล่าสุดที่ฮอนด้าได้วิจัยและพัฒนามาอย่างต่อเนื่องอย่างยาวนานมาบรรจุเข้าไว้ ด้วยสมรรถนะแห่งความสปอร์ตเร้าใจอย่างเต็มสูบด้วยเครื่องยนต์แบบ SOHC ที่มีขนาดความจุ 1.5 ลิตร ซึ่งเป็นเครื่องยนต์แบบ i-VTEC สามารถให้กำลังสูงสุดถึง 111 แรงม้า ในส่วนของพลังงานไฮบริดนั้นมาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ IMA หรือ Integrated Motor Assist ที่ช่วยเสริมกำลังเครื่องยนต์แบบปกติได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ พร้อมกับความล้ำสมัยในการขับขี่ด้วยระบบการขับขี่ในแบบ 3 โหมดที่สามารถตอบสนองทุกความต้องการในการขับเคลื่อนในแบบปกติและแบบประหยัดพลังงานด้วยระบบไฟฟ้า เพื่อให้ทุกการขับขี่เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ
โดยที่ระบบไฮบริดนั้นเป็นเทคโนโลยีที่ถือว่ามีความชาญฉลาด และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในทุกการขับเคลื่อนโดยที่มีเครื่องยนต์ปกติเป็นแหล่งพลังงานหลัก เสริมกำลังเพิ่มความแรงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า โดยทุกขั้นตอนเป็นการจัดการที่ถือว่ายอดเยี่ยมในการจัดการกับพลังงานเพื่อให้สามารถใช้พลังงานได้ อย่างเต็มประสิทธิภาพ และที่สำคัญนั้นก็คือมอเตอร์ไฟฟ้าของรถยนต์ใหม่ Honda CR-Z ได้รับการออกแบบให้มีขนาดที่กะทัดรัด พร้อมทั้งในส่วนของแบตเตอรี่ไฮบริดนั้นก็มีน้ำหนักเบา โดยมันจะจัดวางอยู่ใต้ห้องสัมภาระด้านท้าย จึงไม่ทำให้สูญเสียพื้นที่ด้านบนไปแต่อย่างใด นับว่าเป็นการออกแบบที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดเพื่อโลกอย่างแท้จริง
โดยการขับเคลื่อนของรถยนต์ Honda CR-Z จะมาใน 3 โหมด ซึ่งก็มีทั้ง Sport Mode ที่เป็นโหมดที่ช่วยเพิ่มความสนุก และการตอบสนองที่เร้าใจในทุกการขับขี่ โดยที่ตัวระบบจะปรับการทำงาน ของลิ้นปีกผีเสื้อ มอเตอร์ไฟฟ้าและระบบเกียร์ให้การตอบสนองต่อการขับขี่ได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงการปรับการทำงานของระบบพวงมาลัยเพาเวอร์แบบไฟฟ้าให้สามารถควบคุมรถได้อย่างแม่นยำ เพื่อการเข้าถึงอารมณ์สปอร์ตอย่างแท้จริง นอกจานี้ยังมี Normal Mode ที่เป็นโหมดการขับขี่แบบปกติที่ให้ความสมดุลระหว่างความสนุกสนานในการขับขี่ และการประหยัดน้ำมัน สู่ทุกการขับขี่ที่ราบรื่นคล่องตัว
และสุดท้าย ECON Mode ที่เป็นโหมดการขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง และดูแลสิ่งแวดล้อม โดยระบบจะปรับการทำงานของลิ้นปีกผีเสื้อ มอเตอร์ไฟฟ้าและระบบเกียร์ให้ทำงานสัมพันธ์กัน ในขณะรถวิ่ง นอกจากนั้นระบบจะควบคุมการทำงานของระบบปรับอากาศ และการหมุนเวียนของอากาศภายในห้องโดยสาร ให้เหมาะสมกับอุณหภูมิภายนอกรถ ซึ่งโหมดนี้จะช่วยควบคุม เครื่องยนต์ให้ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับรถยนต์ใหม่รุ่นนี้