วันศุกร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2562

รถยนต์สปอร์ตร้อนแรง Toyota 86 ความแรงในระดับพรีเมี่ยม

ขอขอบคุณข้อมูลจาก https://thaicarbigbike.wordpress.com/
สำหรับค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากแดนปลาดิบอย่างรถยนต์ โตโยต้า นั้นเรื่องความแรงย่อมไม่เป็นสองรองใครอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงทำให้ส่งรถยนต์สปอร์ตร้อนแรงอย่าง Toyota 86 มาให้ชาวไทยได้สัมผัสกันแล้วกับความแรงในระดับพรีเมี่ยมที่ทั้งสมรรถนะทางด้านของความเร็วจากขุมกำลังเครื่องยนต์ขั้นเทพ และรูปลักษณ์ที่สวยงามบาดตาบาดใจ ก็ทำให้มันเป็นที่สนใจได้ในระดับหนึ่งทีเดียว

เฉดสีภายนอกของรถยนต์ Toyota 86 โดยมาพร้อมกับ 7 เฉดสีให้เลือกสรรด้วยกัน ทั้ง Galaxy Blue Sillica, Sterling Silver Metallic, Orange Metallic, Lightning Red, Dark Gray Metallic, Crystal Black Silica เเละ Satin White Pearl

ด้านราคารถยนต์ Toyota 86

รถยนต์ Toyota 86 ราคา STD Grade M/T 2,490,000
รถยนต์ STD Grade ราคา A/T 2,560,000
รถยนต์ Top Grade ราคา 2,740,000

การออกแบบภายนอก Toyota 86

ทางด้านของการออกแบบภายนอกนั้น ต้องเรียกว่ารถยนต์ Toyota 86 พกพาความสวยงามตามแบบของรถยนต์แนวสปอร์ตมาอย่างครบครัน หนำซ้ำทางด้านของโครงสร้างก็ไม่เป็นสองรองใครเมื่อมีขนาดโครงสร้างความยาว x ความกว้าง x ความสูง อยู่ที่ 4,255 มม. x 1,795 มม. x 1,285 มม. โดยมีความยาวช่วงล้อที่ 2,570 มม. เเละมีความกว้างช่วงล้อหน้าอยู่ที่ 1,520 มม. ส่วนช่วงหลังนั้นจะอยู่ที่ 1,540 มม. โดยในส่วนของระดับต่ำสุดจากพื้นอยู่ที่ 130 มม. โดยที่มีน้ำหนักรถอยู่ที่ 1,250 กิโลกรัม เเละมีรัศมีวงเลี้ยวแคบสุดอยู่ที่ 5.4 เมตร

ส่วนถังน้ำมันนั้นมีขนาดความจุอยู่ที่ 50 ลิตร โดยตัวบอดี้นั้นได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี โดยมันให้อารมณ์ความเป็นสปอร์ตแบบสุดสุด กับสเกิร์ตรอบคัน แถมด้วยสปอยเลอร์หลังที่เพิ่มความเท่ห์ได้อย่างมาก ส่วนไฟหน้านั้นก็โดดเด่นในเเบบ HID ที่สามารถปรับระดับได้แบบอัตโนมัติ พร้อมกับไฟหรี่แบบ LED 7JJ ในรถยนต์ Toyota 86 รุ่น Top grade AT ส่วนรุ่น STD grade AT เเละ STD grade MT จะเป็นเเบบฮาโลเจน โดยมีทั้งไฟตัดหมอกทั้งด้านหน้าเเละหลัง นอกจากนี้ยังมีทั้งระบบทำความสะอาดไฟหน้าซึ่งเป็นแบบพับซ่อนได้ เเละกระจกมองข้างเเบบปรับและพับเก็บด้วยไฟฟ้า ส่วนปลายท่อไอเสียนั้นเป็นเเบบคู่ เรียกว่าสวยงาม ดุดันแบบสปอร์ตเร้าใจไปเลย

ภายในห้องโดยสาร Toyota 86

สำหรับภายในห้องโดยสารของรถยนต์ Toyota 86  ได้รับการออกเเบบในเเบบสปอร์ตเร้าใจพร้อมกับการเลือกใช้โทนสีดำ เเละสีดำ-เเดง ในรุ่น Top grade AT ส่วนรุ่น STD grade AT เเละ STD grade MT จะใช้สีดำอย่างเดียว โดยมีพวงมาลัยระบบ EPS ที่หุ้มหนัง 3 ก้าน ปรับระดับได้ 4 ทิศทาง พร้อมดัวยมาตรวัดความเร็วแบบดิจิตอล ในรุ่น Top grade AT สำหรับเซ็นทรัลล็อกนั้นจะมาในทุกรุ่น พร้อมทั้งยังมี หน้าต่างไฟฟ้า ที่มาพร้อมด้วยระบบ Jam Protection

ด้านคนขับและผู้โดยสาร ส่วนกระจกมองหลังเป็นแบบปรับกลางวัน-กลางคืน (Frameless) โดยวัสดุที่เลือกมาใช้ผลิตเบาะนั่งนั้นจะเป็น เบาะหนัง-ผ้าพิเศษ ในรุ่น Top grade AT ส่วนรุ่น STD grade AT เเละ STD grade MT จะเป็นเบาะผ้า โดยในส่วนของเบาะผู้ขับขี่ สามารปรับธรรมดา 6 ทิศทาง พร้อมระบบอุ่นเบาะ ส่วนเบาะผู้โดยสารด้านหน้า สามารปรับธรรมดา 4 ทิศทาง พร้อมระบบอุ่นเบาะ เเละเบาะหลังพับได้ ส่วนเครื่องปรับอากาศ และเครื่องทำความร้อนนั้นจะเป็นแบบอัตโนมัติ แยกปรับอุณหภูมิอิสระซ้าย-ขวา พร้อมด้วยเครื่องเสียง เเบบหน้าจอสัมผัส DVD/ CD/ MP3/ WMA/ AAC/ Bluetooth/ SD Card พร้อมด้วยช่องเชื่อมต่อ USB ที่สามารถเชื่อมต่อ Smart Phone รองรับบริการพิเศษจาก smart G-BOOK

โดยในส่วนของความปลอดภัยนั้นก็เรียกว่าไม่ต้องกังวลใจกันเลยกับถุงลมเสริมความปลอดภัย แบบ SRS Airbags ถึง 7 จุดด้วยกัน โดยอยู่ทางด้านหน้า 2 จุด ด้านหลัง 2  จุด ในส่วนของม่านอีก 2 จุด และบริเวณเข่าของผู้ขับอีก 1จุด ส่วนเข็มขัดนิรภัยทางด้านหน้าจะเป็นเเบบ ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง ซึ่งจะดึงรั้งกลับและผ่อนแรงแบบอัตโนมัติ ส่วนเข็มขัดนิรภัยด้านหลัง จะเป็นเเบบ ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง โดยที่จะมีกระจกบังลมหน้าอัดซ้อนนิรภัยที่มาพร้อมกับ Top Shade อีกด้วย ส่วนระบบป้องกันการโจรกรรมรถนั้น ก็เป็นระบบสตาร์ทอัจฉริยะเเละระบบเปิดประตูอัจฉริยะ สุดท้ายเสริมด้วยระบบควบคุมความเร็วแบบอัตโนมัติ

สำหรับสมรรถนะความแรงของเครื่องยนต์นั้น ก็น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวเมื่อ Toyota 86 ที่เป็นรถยนต์สปอร์ตหนึ่งเดียวของค่ายโตโยต้าในตลาดรถยนต์เมืองไทยนั้น มีการวางเครื่องยนต์มาในแบบของเครื่องยนต์รุ่น FA20, Boxer จำนวน 4 สูบแถวนอน 16 วาล์ว DOHC โดยมีขนาดความจุกระบอกสูบ 1,998 ซีซี พร้อมกับความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก อยู่ที่ 86 มม. x 86 มม. โดยมีระบบการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นเเบบ D4S หรือที่เรียกว่า Direct injection 4-Stroke gasoline Superior version พร้อมด้วยอัตราการอัดอยู่ที่ 12.5:1 โดยมันสามารถให้กำลังสูงสุดได้ถึง 200 เเรงม้าที่ 7,000 รอบต่อนาที พร้อมกับมีเเรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 205 นิวตันเมตรที่ 6,400 รอบต่อนาที


โดยสำหรับระบบเกียร์นั้นก็มาพร้อมกับถึง 2 แบบ 2 สไตส์ให้เลือกสรรกันเลยคือ ระบบเกียร์เเบบ 6AT ในรุ่น Top grade AT เเละแบบ STD grade AT ส่วนในรุ่น STD grade MT จะเป็นระบบเกียร์เเบบ 6MT โดยมีระบบการขับเคลื่อนของรถเป็นเเบบตำแหน่งเครื่องยนต์วางหน้า โดยขับเคลื่อนล้อหลัง ส่วนระบบส่งกำลังนั้นจะมีระบบเกียร์เเบบอัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย ซึ่งเป็นเเบบ Paddle Shift ในรถยนต์ Toyota 86 รุ่น Top grade AT ส่วนรุ่น STD grade AT จะเป็นเเบบ อัตโนมัติ 6 สปีด เเละรุ่น STD grade MT จะเป็นเเบบ ธรรมดา 6 สปีด โดยมีอัตราการทดเกียร์จากเกียร์ที่ 1 ถึงเกียร์ที่ 6 เป็น 3.538, 2.060, 1.404, 1.000, 0.713 เเละ 0.582 โดยที่อัตราทดเกียร์ถอยหลังเป็น 3.168 เสริมด้วยระบบล็อกเฟืองท้ายเเบบ Torsen LSD โดยมีอัตราทดเฟืองท้ายที่ 4.100

ทางด้านของช่วงล่างนั้นก็เรียกว่าแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง เมื่อมีระบบกันสะเทือนด้านหน้าเป็นเเบบแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ในขณะที่ด้านหลังจะเป็นระบบกันสะเทือนเเบบอิสระปีกนกคู่ พร้อมเหล็กกันโคลง โดยที่มีล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ส่วนขนาดของยางจะเป็น 215/45R17 7JJ ในรุ่น Top grade AT ส่วนในรุ่น STD grade AT เเละรุ่น STD grade MT จะเป็นเเบบ ล้อแบบอัลลอย ขนาด 16 นิ้ว เเละขนาดของยางจะเป็น 205/55R16 6.5JJ
ส่วนระบบความปลอดภัยนั้นก็ถือว่าจัดเต็มเป็นอย่างยิ่ง โดยมีระบบเบรกด้านหน้าเป็นเเบบ ดิสก์เบรก 16 นิ้ว พร้อมครีบระบายความร้อน ส่วนด้านหลังจะเป็นเเบบดิสก์เบรก 15 นิ้ว พร้อมครีบระบายความร้อน โดยมันจะทำงานภายใต้ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก แบบ ABS ที่มาพร้อมกับระบบควบคุมการทรงตัว แบบ VSC และเสริมด้วยระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC โดยที่มีระบบกระจายแรงเบรก EBD เเละระบบเสริมแรงเบรก BA ช่วยทำให้ความปลอดภัยของรถยนต์ Toyota 86 อยู่ในเกณฑ์สูงสุดทีเดียว