วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2558

รุ่นและราคา Ducati Monster 795 บิ๊กไบค์ยอดนิยมตลอดกาล

ที่มา http://th-bigbike.com/new-ducati-monster-795/
รุ่นและราคา Ducati Monster 795 บิ๊กไบค์สไตล์เน็คเก็ต
เน็คเก็ตไบค์ยอดนิยมในตลาดรถประเทศไทย Ducati Monster 795 บิ๊กไบค์คลาสกลางจากอิตาลี ที่มีการเปิดตัวมานานหลายปี แต่ว่ากระแสความนิยมยังไม่เสื่อมคลาย แม้ว่าจะมีรุ่นใหม่มาแทนที่อย่าง Ducati Monster 796 เข้ามาทำตลาด แต่ทว่า Ducati Monster 795 ก็ยังได้รับความนิยมเหมือนเค

สำหรับราคามีหลายเรทราคาให้เลือกครับ โดยแบ่งเป็นรุ่นย่อยๆได้อีกสามรุ่นเลยทีเดียว ตอบโจทย์ชาวไบค์เกอร์ได้เป้นอย่างดี สำหรับราคา Ducati Monster 795 สามารถดูได้ด้านล่างครับ

Monster 795 Y14 ราคา 399,990 บาท 
Monster 795 ABS ราคา 439,500 บาท 
Monster 795 ABS Corse Stripe ราคา 449,500 บาท

สำหรับภายนอก Ducati Monster 795 จะแบ่งออกเป็น 2เฉดสี นั่นคือสีดำ ที่มีการออกแบบตัวเฟรมให้เปนสีแดง แต่ว่าบริเวณตัวถังจะใช้สีดำ เพิ่มความเข้มได้อย่างลงสำหรับสีนี้ และที่ขาดไม่ได้คือ สีที่สองนั่นเป้นเอกลักษณ์ของค่ายนี้เลยก็ว่าได้ เพราะดูคาติทุกรุ่นจะใช้สีแดงเป็นสีหลักในการออกแบบ มองครั้งแรกคุณก็จะรู้เลยว่านี่คือบิ๊กไบค์จากค่ายดูคาตินั่นเอง

สำหรับบิ๊กไบค์สไตล์เน็คเก็ตรุ่นนี้ ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งดีไซน์และสมรรถนะ ที่ได้รับนางแฝงว่า ปีศาจร้ายแห่งท้องถนน ตามชื่อรุ่น Monster ที่ดูดุดันในทุกมุมมอง และบิ๊กไบค์จากค่ายนี้ต้องบอกว่าได้รับการใส่ใจทุกรายละเอียดใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ระบบความปลอดภัยที่จัดเต็ม แถมมีการออกแบบที่สง่างาม ใครเห็นก็ต้องหลงไหล เหลียวตามองกันทุกรายไป และนี่คือสเน่ห์ว่าทำไมชาวไบค์เกอร์เมืองไทยถึงหลงไหลใน Ducati Monster 795 บิ๊กไบค์จากยุโรปคันนี้ แม้ว่าจะมีการเปิดตัวจนเลิกผลิตไปแล้วก็ตาม

สำหรับเครื่องยนต์ต้องบอกว่าจัดเต็มมากๆเพราะ Ducati Monster 795 มาพร้อมกับขุมกำลังแบบ L-Twin 803 ซีซี มีระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ ให้กำลังแรงม้าถึง 87 แรงม้า ที่ 8,250 รอบต่อนาที ให้แรงบิด 8.0 กิโลกรัม-เมตร ที่ 6,250 รอบ/นาที โดยใช้ะบบควบคุมวาล์วไอดี-ไอเสียแบบไร้สปริงกดวาล์ว ระบบเกียร์แบบ 6 สปีด ใช้ระบบคลัทช์แบบเปียก APTC ที่มีการควบคุมด้วยไฮโดรลิค จึงทำให้บิ๊กไบค์รุ่นนี้มาพร้อมกับสมรรถนะที่เร้าใจอย่างยิ่งในระดับเครื่องยนต์ขนาดกลางเมื่อเทียบกับค่ายอื่นๆในระดับเดียวกัน

มาพูดถึงความปลอดภัยของ Ducati Monster 795 กันบ้าง เน็คเก็ตไบค์คันนี้มาพร้อมกับระบบกันสะเทือนหน้าแบบ Marzocchi เทเลสโกปิคหัวกลับ ทำงานร่วมกับชุดแผงคอแบบทริปเปิ้ลแคลมป ที่ช่วยให้ทุกการขับขี่ที่มีความเร็วสูงมีความมั่นคงและแม่นยำ ส่วนด้านหลังมีระบบกันสะเทือนแบบบโมโนช็อกของ Sachs ที่ทำงานร่วมกับสวิงอาร์มแบบอะลูมิเนียมทรงปีกนก สามารถปรับค่าสวิงได้ตามความต้องการ มาพร้อม Brembo ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เบรกหน้าใช้แบบทวินดิสก์ขนาด 320 มม.และเบรกหลังเป็นแบบซิงเกิ้ลดิสก์ขนาด 245 มม. ทำให้คุณมั่นใจทุกครั้งที่เบรกรถสบายใจหายห่วง

ภาพรวมต้องบอกว่า Ducati Monster 795 มันเป็นบิ๊กไบค์ในฝันของใครหลายๆคน แม้ว่าวันและเวลาจะผ่านไป แต่ยังคงได้รับความนิยมไม่เสื่อมคลาย เป็นบิ๊กไบค์อีกรุ่นจากค่ายดูคาติที่สร้างชื่อให้กับทางค่ายนี้ และทำให้ชาวไบค์เกอร์หน้าใหม่หลายๆคนเริ่มมาสนใจในการขับขี่บิ๊กไบค์ และนี่แหละครับ Ducati Monster 795 ความนิยมที่ไม่เสื่อมคลาย




วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2558

เฉดสีและราคา Kawasaki Z1000 ABS เน็คเก็ตไบค์ราคา 599,000บาท

เฉดสีและราคา Kawasaki Z1000 ABS เน็คเก็ตไบค์ราคา 599,000บาท

เน็คเก็ตไบค์รุ่นใหญ่จากค่ายคาวาซากิที่มาพร้อมกับออฟชั่นที่ลงตัว Kawasaki Z1000 ABS บิ๊กไบค์ที่มาพร้อมกับดีไซน์ที่ลงตัวและยังมาพร้อมเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ โดยมีการออกแบบว่า ซูโฏมิ คือความไหลลื่นความโฉบเฉี่ยว เส้นสายที่ลงตัวมาในแนวสรีทไบค์ พร้อมความโค้งเว้าด้านการออกแบบ จึงทำให้ Kawasaki Z1000 ABS ดูโดดเด่นกว่าบิ๊กไบค์ในรุ่น Z อีกด้วย


สำหรับราคา Z1000 ABS มีค่าตัวอยู่ที่ 599,000 บาท เป็นราคาที่ไม่ถือว่าแพงมากจนเกินไป เมื่อเปรียบเทียบกับบิ๊กไบค์เครื่องยนต์ขนาดเดียวกันจากค่ายอื่นๆ ที่มีราคาสูงกว่านี้อย่างเห็นได้ชัด ทั้งๆที่สมรรถนะพอๆกัน จึงทำให้ Z1000 ABS เป็นรุ่นที่น่าสนใจอีกรุ่นในตลาดรถ


ภายนอกเน็คเก็ตไบค์คันนี้ มาพร้อมกับสีสันภายนอกให้เลือกเพียงแค่สองสีเท่านั้น แต่ก็เป็นเฉดสีที่ลงตัวครับ เพราะว่ามีแค่สองสีก็ดึงดูดใจแล้ว นั่นคือ สีดำ และสีเขียว แต่ในอนาคตไม่รู้ว่าคาวาซากิประเทศไทยจะนำ Z1000 ABS สีอื่นๆมาจำหน่ายอีกหรือไม่ต้องรอติดตามกันดู


เรียกว่าเป็นบิ๊กไบค์รุ่นใหญ่ที่น่าสนใจมากๆนะครับสำหรับ Kawasaki Z1000 ABS เพราะว่าใช้เครื่องยนต์กว่า 1043 ซีซี แบบดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ 4 กระบอกสูบ จนคุณสนุกไปกับแรงบิดที่เหนือชั้นได้อย่างไม่ต้องคาดเดา ช่วงล่างก็แข็งแรงและปลอดภัย ทั้งซัสเพนชั่นหน้าหลัง และระบบเบรคที่มาพร้อมแอนตี้ล็อค เบคกิ้งซิสเต็ม จัดเต็มความปลอดภัยมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ถือว่าเป็น NAKEDBIKE รุ่นใหญ่ที่คุ้มค่าคันหนึ่งเลยครับ

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับบิ๊กไบค์ซีรีย์ Z จากค่ายคาวาซากิ ที่มาพร้อมกับความลงตัวในทุกมุมมอง หากใครชอบบิ๊กไบค์เครื่องยนต์ใหญ่ๆ ดีไซน์แบบเน็คเก็ต บิ๊กไบค์รุ่นนี้ตอบโจทย์ได้แน่นอน ยอดเยี่ยมจริงๆสำหรับ Kawasaki Z1000 ABS บิ๊กไบค์แดนปลาดิบคันนี้


วันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2558

เฉดสีและราคา Kawasaki Z800 รุ่นปี 2014 บิ๊กไบค์สไตล์เน็คเก็ต

เฉดสีและราคา Kawasaki Z800 รุ่นปี 2014 บิ๊กไบค์สไตล์เน็คเก็ต
ยนตกรรมบิ๊กไบค์จากค่ายคาวาซากิที่ตอบโจทย์ตลาดรถได้เป็นอย่างดี ถึงแม้ว่า Kawasaki Z800 รุ่นปี 2014 จะเผยโฉมมาหลายปี แต่ว่าก็ยังร้อนแรงในตลาดรถอยู่เสมอ เพราะว่าการออกแบบที่ดูบึกบึน ดุดัน มาพร้อมกับเครื่องยนต์อันร้อนแรง เทคโนโลยีระดับท๊อป จึงทำให้มันโดดเด่นในตลาดรถเป็นอย่างมาก เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Ducati Monster 796 ก็สูสีไม่แพ้กัน ที่สำคัญราคาถูกกว่าอีกด้วยครับ สุดยอดจริงๆ

ด้านราคา Kawasaki Z800 ก็ไม่ได้แพงอย่างที่คิด เพราะว่าเมื่อเทียบกับค่ายทางฝั่งยุโรปแล้วถือว่าถูกกว่าพอสมควรครับ แต่สมรรถนะไม่ได้ด้อยกว่าสักนิดเลย มาดูราคา Kawasaki Z800 กันบ้างว่ามันมีค่าตัวเท่าไหร่ นั่นคือ 375,000 บาท เป็นราคาที่เหมาะสมทุกประการ แต่ข้อเสียเล็ฏๆน้อยๆก็คือ มีแค่เพียง สองเฉดสีให้เลือกครับ นั่นคือ สีส้มดำ และ สีดำ ครับ


การออกแบบมาในแนวที่ดุดัน จะเห็นได้มามาพร้อมกับถังน้ำมันขนาดใหญ่ที่ดูเท่ทีเดียว ล้อขนาดโตที่บ่งบอกว่าบิ๊กไบค์รุ่นนี้ไม่ใช่รุ่นเล็ก เบาะนั่งออกแบบในสไตล์สปอร์ต สามารถซ้อนท้ายได้ มาตราวัดความเร็ว Kawasaki Z800 ใช้แบบดิจิตอล แสดงผลข้อมูลได้อย่างชัดเจน ออกแบบเข้ากับตัวรถได้อย่างลงตัว พร้อมท่อไอเสียแบบทวินพร้อมเสียงดังกระหื่ม พร้อมเครื่องยนต์ขนาดกลางที่เผยให้เห็นถึงความเท่สไตล์เน็คเก็ตได้อย่างลงตัว


สำหรับข้อมูลของตัวรถ Kawasaki Z800 มีความยาว2,100 mm. ความกว้าง 800 mm. ความสูง 1,050 mm. มีระยะฐานล้อ 1,440 mm. ความสูงใต้ท้องรถ 150 mm. ขึ้นคร่อมง่ายด้วยความสูงเบาะ 834 mm. มีน้ำหนักรถ 229 kg. พร้อมจุเชื้อเพลิงได้ 17ลิตรเลยทีเดียว ทำให้สามารถขับขี่ยาวนานมากขึ้นอีกด้วยครับ


โดยรวมแล้วสำหรับภาพรวมของ Kawasaki Z800  ถือว่าค่อนข้างดีมากๆเลยครับ
คุณสามารถเติมเต็มทุกจังหวะการขับขี่ไปกับบิ๊กไบค์เครื่องยนต์
806 ซีซีคันนี้ได้อย่างเต็มกำลัง
และสนองทุกความต้องการบนระบบเกียร์
6 สปีดได้อย่างอิสระ และยังสนุกกับการทรงตัวที่ได้รับการออกแบบมาอย่างแข็งแรง
ไปจนถึงระบบเบรคที่เซฟตี้มากๆ ถือว่าเป็นรถที่น่าใช้งานมากๆครับ
ใครที่อยากเพิ่มซีซีจากรุ่นเล็กเป็นตัวกลางแนะนำรุ่นนี้เลยครับ

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับเน็คเก็ตไบค์คลาสกลางคันนี้จากค่ายคาวาซากิ ทุกสัดส่วนถือว่าลงตัวจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบหรือสมรรถนะของเครื่องยนต์ก็ถือว่าอยู่ในระดับสูง ความปลอดภัยก็ถูกจัดเต็มมาในรถคันนี้ เป็นอย่างไรกันบ้างกับ Kawasaki Z800 บิ๊กไบค์สไตล์เน็คเก้ตจากค่ายยักษ์เขียวจากแดนปลาดิบ

วันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2558

บิ๊กไบค์สไตล์เน็คเก็ต Honda CB300F ราคาเพียง 130,000 บาท

บิ๊กไบค์สไตล์เน็คเก็ต Honda CB300F ราคาเพียง 130,000 บาท

เน็คเก็ตไบค์รุ่นเล็ก Honda CB300F (ฮอนด้า ซีบี300 เอฟ) เป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจในตลาดรถปี 2015 ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบที่สวยงาม ดุดัน ถึงแม้ว่าจะดูเรียบๆไม่มีอะไรมากนัก แต่ก็ดีไซน์มาแบบสปอร์ต หลายๆคนคงไม่ชอบที่มีลายกราฟฟิกมากนัก  มาพร้อมกับสมรรถนะที่เหนือชั้น เหมาะสำหรับมือใหม่ที่อยากลองขี่บิ๊กไบค์เป็นอย่างมาก มีน้ำหนักที่เบา เหมาะกับคนตัวเล็กยิ่งนัก ไม่ว่าจะในเมืองหรือนอกเมืองก็คล่องตัวเป็นอย่างมาก


มีเฉดสีให้เลือกถึง 3เฉดสี สีแรกคือ สีแดง-ดำ สีที่สอง สีขาว-ดำ สุดท้ายกับสีดำล้วน ดำทั้งคัน เป็นยังไงครับกับเฉดสี Honda CB300F ทั้ง สามเฉดสี แต่ละสีให้อารมณ์ที่แตกต่างกัน ถือว่าลงตัวทุกสีแถมมีให้เลือกเยาะกว่ารุ่นอื่นๆอีกด้วย


โดยรวมแล้วถือว่าเป็นมอเตอร์ไซค์ที่ได้รับความนิยมและได้รับการพูดถึงเป็นอย่างมากเพราะว่าด้วยราคา HONDA CB300F ที่ต่ำเพียงแค่ 130,000 บาทเท่านั้น คนที่มีงบน้อยเลยหาแหล่งดาวน์แหล่งซื้อกันใหญ่ แถมเครื่องยนต์ก็น่าประทับใจไม่น้อย โดยคุณจะได้รับเครื่องยนต์ขนาด 286 ซีซีแบบ 4 จังหวะ 1 กระบอกสูบมาลุยบนท้องถนนแบบระทึกใจ พร้อมได้รับจุดระเบิดแบบคอมพิวเตอร์คอนโทรลเลอร์มาด้วย แถมยังเพิ่มความมันส์ไปกับระบบเกียร์แบบ 6 สปีด พริ้วไหวด้วยล้อ 1 นิ้ว พร้อมระบบเบรกแบบดิสก์เบรกทั้งล้อหน้าและล้อหลัง ในราคาแสนต้นๆ และนี่แหละครับ CB300F มอเตอร์ไซค์ที่ทุกคนอยากเป็นเจ้าของในตอนนี้




วันอังคารที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2558

รุ่นและราคา Honda CB650F เน็คเก็ตไบค์สไตล์สปอร์ตจากค่ายฮอนด้า

รุ่นและราคา Honda CB650F เน็คเก็ตไบค์สไตล์สปอร์ตจากค่ายฮอนด้า
ที่มา http://th-bigbike.com/honda-cb650f/
เน็คเก็ตไบค์รุ่นใหม่จากค่าย ฮอนด้า CB650F มีให้เลือกถึงสามเฉดสีด้วยกัน สำหรับสีดำและสีเหลืองนั้น มีราคาอยู่ที่ 285,000 บาท และอีกหนึ่งสีที่มีราคาสูงกว่านั่นคือ CB650F Tripple Colour ที่มีการเล่นสีสามสีรวมอยู่ในคันเดียว

ถือว่าเป็นมอเตอร์ไซค์ที่น่าจับตามองมากๆเลยนะครับ สำหรับ HONDA CB650F บิ๊กไบค์ 649 ซีซี 87 แรงม้าคันนี้ เรียกว่ามีความโดดเด่นหลายอย่างไม่ใช่เพียงแค่ดีไซน์ภายนอก หรือว่าราคาและสีสันเท่านั้น ด้วยความที่เป็น BIGBIKE จากค่ายรถชื่อดังสัญชาติญี่ปุ่นที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างนานแสนนอนก็เลยตอบโจทย์ความต้องการในหลายๆด้านได้เป็นอย่างดี 

ยิ่งในเรื่องของช่วงล่างแล้วยิ่งได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นตัวซัสเพนชั่นหรือว่าระบบเบรคก็ตาม เติมเต็มความปลอดภัยด้วยระบบแอนตี้ล็อคเบรคกิ้งซิสเต็มมาให้อย่างเหนือชั้นจริงๆครับ ถามว่าดีไหมถ้าจะซื้อ ตอบได้เลยว่าดีมากๆ

รุ่นและราคา HONDA CBR1000RR สปอร์ตไบค์รุ่นใหญ่จากญี่ปุ่น

HONDA CBR1000RR รุ่นปี 2015
ที่มา http://th-bigbike.com/honda-cbr1000rr/

บทสรุปของเจ้า HONDA CBR1000RR นั้นก็ถือว่าค่อนข้างลงตัวครับ สำหรับ บิ๊กไบค์เครื่องยนต์ 999 ซีซี 117 แรงม้า ที่ว่ากันว่ามันถูกล็อคแรงม้าเอาไว้ ซึ่งมันจะมาคู่กับระบบส่งกำลังแบบเกียร์ สปีด แถมยังมีระบบเบรคเอบีเอสด้วยนะครับ เรียกว่าน่าสนใจมากจริงๆ เป็นสปอร์ตสายพันธุ์แท้เลยทีเดียว แต่ด้วยความที่เป็น SPORT สัญชาติญี่ปุ่น
อยู่ในแถบเอเชีย คนไทยเลยฮือฮากันเป็นอย่างมากและรอจับจองเป็นเจ้าของกันมากมายหลายคน แถมยังพ่วงท้ายมาให้เป็นซีรีส์
RR เรียกได้ว่า CBR1000RR เอาใจนักแข่งที่ชอบรถแข่งโดยเฉพาะกันเลยทีเดียว สำหรับราคา CBR1000RR ตอนนี้ในประเทศไทยขายอยู่ที่ 685,000 บาท



รุ่นและราคา HONDA CBR1000RR สปอร์ตไบค์รุ่นใหญ่จากญี่ปุ่น


วันเสาร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

รถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ค่าย HONDA ในตลาดรถปี 2015

รถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ค่าย HONDA ในตลาดรถปี 2015

                สำหรับปีนี้ ค่ายรถอย่าง HONDA (ฮอนด้า) ก็ได้ส่งมอเตอร์ไซค์หลายรุ่น เข้ามาสู่ในสังเวียน ตลาดรถ BIGBIKE 2015 จนได้รับความนิยมและความน่าสนใจ สร้างความคึกคักให้วงการมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ของโลกได้เป็นอย่างดี สำหรับฮอนด้าเองแล้ว แน่นอนว่าค่อนข้างโดดเด่นในเรื่องของมอเตอร์ไซค์แนวสปอร์ตไบค์เป็นหลักที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทั้งรุ่นเล็กๆ ซีซีน้อย ๆ ไปจนถึงรุ่นใหญ่ๆ ซีซีเยอะๆ ก็จัดหนักออกมาให้ชาวไบค์เกอร์มือเก่าและมือใหม่และทุบกระปุกซื้อกันอยู่เป็นประจำ ส่วนรถที่น่าสนใจในตลาดรถบิ๊กไบค์ 2558 นี้จากฮอนด้าก็มีหลายรุ่นเลยนะครับ ไม่ว่าจะเป็นรถแนวสปอร์ต รถแนวสตรีท ก็ผลิตมาวางขายกันอย่างล้นตลาด แต่จะมีรุ่นไหนน่าสนใจในตอนนี้บ้างมาดูกันเลย
                เริ่มกันที่รุ่นใหญ่กันก่อนเลยครับ ความฮอตฮิตในนาทีนี้หนีไม่พ้น SPORT BIKE รุ่นใหญ่อย่าง HONDA CBR1000RR (ฮอนด้า ซีบีอาร์ 1000 อาร์อาร์ ) รถแข่งขนาด 999ซีซี ที่ให้กำลังแรงบิดและแรงม้าได้อย่างจัดเต็ทุกรอบ เติมเต็มความเหนือชั้นด้วยระบบเชื้อเพลิงสุดพิเศษแบบ PGM-DSFI สำรับราคาการวางขาย อย่าง HONDA CBR1000RR ราคา เริ่มต้นที่ 685,000 บาท โดยจะมีการปรับราคาตามสี สิงห์นักบิดที่รักความแรงและมองหามอเตอร์ไซค์ขุมพลังบิ๊กๆ รุ่นนี้คงจะสนองตัณหาทั้งเรื่องราคาและความแรงให้คุณได้อย่างคุ้มค่าแน่นอน

                บิ๊กไบค์ของฮอนด้าที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในตลาดรถ BIGBIKE รุ่นต่อมาคือ Honda CB650F ( ฮอนด้า ซีบี650เอฟ ) ที่ชาว NAKED BIKE  ส่วนใหญ่จะเอาไปเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจกับมอเตอร์ไซค์ค่ายสีเขียวอยู่ 1รุ่น  สำหรับสตรีทไบค์แนวเน็คเก็ตสัญชาติญี่ปุ่นรุ่นนี้มาพร้อมขุมพลัง 649 ซีซี 87 แรงม้า และราคา Honda CB650F นั้นจะขายอยู่ที่ 285,000 บาท - 288,000 บาท เรียกว่าได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องมากๆ แถมยังมียอดขายค่อนข้างดีเลยทีเดียว หลายเป็นมอเตอร์ไซค์ที่ได้รับความสนใจในหมู่คนขับขี่บิ๊กไบค์อีกหนึ่งคันครับสำหรับ ฮอนด้า ซีบี650เอฟ
                ในปี 2015 นี้ ขอยกให้ เน็คเก็ตไบค์อีกหนึ่งคันจากฮอนด้าที่น่าสนใจและค่อนข้างได้รับความสนใจจากมือใหม่ที่กำลังมองหาบิ๊กไบค์ราคาถูกกันอยู่ สำหรับ Honda CB300F ( ฮอนด้า ซีบี300เอฟ ) NAKED BIKE รุ่นสมอลที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 286 ซีซีคันนี้ จะขายในราคา 130,000 บาทเท่านั้น เรียกว่าราคา Honda CB300F รุ่นนี้ค่อนข้างน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวครับ ใครที่สนใจบิ๊กไบค์ราคาไม่แพง มีงบน้อย ๆ งบจำกัด คาดว่าอาจจะได้สอยฮอนด้า ซีบี300เอฟ ไปขับขี่กินลมเพลินๆแน่นอนครับ เห็นราคาถูกๆแบบนี้คุณภาพที่อัดแน่นทุกสัดส่วนกันเลยทีเดียว

                ยังมีหมดนะครับ มี BIGBIKE อีกหนึ่งรุ่นจากฮอนด้าที่ค่อนข้างสร้างกระแสได้เป็นอย่างดี รับหรับคนชอบสปอร์ตไบค์ และอยากมีสปอร์ตไบค์ซีซีเบาๆ มาเพิ่มความเท่ ปีนี้ ฮอนด้าได้ปล่อย Honda CBR300R (ฮอนด้า ซีบีอาร์ 300 อาร์ ) เข้าสู่ตลาดรถ BIGBIKE เพื่อเอาใจคนรุ่นใหม่อย่างเต็มที่ โดยเจ้าสปอร์ตแดนปลาดิบดีกรีแรงคันนี้ใช้เครื่องยนต์ขนาด 286 ซีซี ที่มพาร้อมเฟรมแบบ Diamond Twin-Spar Steel Frame ดีไซน์สวยงามทุกเส้นสายใครที่สนใจ ราคา Honda CBR300R อยู่ที่ 134,000- 136,000 บาท ถือว่ายังเป็นราคาที่น่าสนใจ ใครที่ชื่นชอบมอเตอร์ไซค์แนวสปอร์ตราคาประหยัด รุ่นนี้แหละครับ ประหยัดแน่นอน ตอบโจทย์การขับขี่ให้คุณได้อย่างคุ้มค่าเกินราคาแน่ๆ

                และนี่ก็เป็นความน่าสนใจในตลาดรถ BIGBIKE ของ HONDA (ฮอนด้า) นะครับ คนที่ชื่นชอบมอเตอร์ไซค์ค่ายนี้อยู่แล้วคงจะชอบใจกันไม่น้อย สำหรับ 4 รุ่นที่น่าติดตามในปีนี้ และคาดว่าในช่วงปลายปี และกลางปี ก็อาจจะยังคงมีรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์จากค่ายรถแดนปลาดิบค่ายนี้ออกมาสู่สายตาประชาชนอีกหลายรุ่นแน่นอนครับ

อ้างอิงจาก http://th-bigbike.com/category/honda/

วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

บิ๊กไบค์ค่าย BMW ( บีเอ็มดับเบิ้ลยู ) ค่ายรถสัญชาติเยอรมัน

บิ๊กไบค์ค่าย BMW ( บีเอ็มดับเบิ้ลยู ) ค่ายรถสัญชาติเยอรมัน

หากพูดถึงค่ายรถชื่อดังอย่าง BMW ( บีเอ็มดับเบิ้ลยู ) แล้ว บอกได้คำเดียวว่าความหรูหรา ความแรง ความปลอดภัย ความทันสมัย และดีไซน์ที่สวยงามนั้น ครบทุกองศาจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ หรือว่ามอเตอร์ไซค์ก็ตาม โดยเรียกได้ว่า เป็นอีกหนึ่งค่ายรถที่ค่อนข้างได้รับความนิยมในตลาดรถ BIGBIKE เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นมอเตอร์ไซค์ออริจินัลไบค์ หรือว่ามอเตอร์ไซค์คัสต้อมไบค์ก็ตาม แต่ละรุ่นได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มีหลายคันของค่ายรถแห่งนี้ที่คนทั้งโลกให้ความสนใจและซื้อมาใช้ ยกตัวอย่างเช่น


                BMW S 1000 R (บีเอ็มดับเบิ้ลยู เอส 1000 อาร์ ) เน็คเก็ตไบค์ที่ถือว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเป็นรถที่มีกลิ่นอายความสปอร์ตและสตรีทผสมผสานได้อย่างลงตัว โดดด้วยความเท่ในสไตล์ NAKED BIKE ที่ทันสมัยสุดๆ  สำหรับรุ่นนี้มีราคา BMW S 1000 R อยู่ที่ 830,000 บาท ด้วยความที่มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาดใหญ่และแรงม้าที่เหนือชั้น แถมยังเป็นรถนิยมค่ายดังที่ได้รับความนิยม และการันตีความน่าเชื่อถือ ราคาเลยสูงตามประสิทธิภาพ เครื่องยนต์ก็แรง 160 แรงม้า 118 กิโลวัตต์ที่ 11000 รอบต่อนาที ในกระบอกสูบ 999 ซีซี โดยสามารถสร้างแรงบิดได้ที่ 83 lb-ft 112 นิวตั้นเมตรที่ 9250 รอบต่อนาทีได้อย่างเหนือชั้น

                ต่อมาก็เป็นสปอร์ตไบค์ขวัญใจคนไทยอย่าง BMW HP4 ( บีเอ็มดับเบิ้ลยู เอชพี 4 ) สปอร์ตไบค์ขวัญใจนักแข่งรถ ที่มีดีไซน์ที่สวยงาม มีความเป็นซุปเปอร์สปอร์ตทุกตารางนิ้วทุกการขับขี่มีความพริ้วไหวอย่างชัดเจน เป็นรถที่มียอดขายสูงมากๆเลยทีเดียว สำหรับราคาของ BMW HP4 นั้นก็พุ่งเกินล้าน มีการวางขายในตลาดรถบิ๊กไบค์ด้วยราคา 1,208,000 บาท สิ่งที่คุณจะได้รับนอกจากดีไซน์ที่สปอร์ตพรีเมี่ยมแล้ว ยังมีเครื่องยนต์แบบ 4 จังหวะ 999 ซีซี ที่สามารถรีดสปีดได้ 193 แรงม้า 142 กิโลวัตต์ที่ 13000 รอบต่อนาที แถมยังมีแรงบิดที่ 83 lb-ft 112 นิวตั้นเมตรที่ 9750 รอบต่อนาทีอีกด้วย
                รุ่นสุดท้ายที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันก็คือ BMW S 1000 RR ( บีเอ็มดับเบิ้ลยู เอส 1000 อาร์อาร์ ) รถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ประเภทสปอร์ตไบค์ ใช้ในการแข่งรถได้อย่างสมบูรณ์แบบด้วยเครื่องยนต์ 999 ซีซี 193 แรงม้า 142 กิโลวัตต์ ที่ 13000 รอบต่อนาที มีแรงบิดที่  83 ft-lb 112 นิวตั้นเมตรที่ 9750 รอบต่อนาที ส่วนในเรื่องของราคา BMW S 1000 RR นั้น ต้องบอกว่า ถูกกว่า R เดียวซะอีก เพราะว่าขายในราคา 1,060,000 บาท ทำให้ตลาดรถ BIGBIKE นั้นมียอดจำหน่าย SPORT BIKE สัญชาติเยอรมันรุ่นนี้ได้ไม่แพ้ SPORT BIKE รุ่นอื่นๆเลยครับ
                ส่วนในปี 2015 นี้ก็มี BIGBIKE ของ BMW ออกมาวางขายในตลาดรถบิ๊กไบค์หลายรุ่นเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น บิ๊กไบค์ประเภทเอ็นดูโร่ แอดเวนเจอร์อย่าง BMW S1000XR (บีเอ็มดับเบิ้ลยู เอส 1000 เอ็กซ์อาร์) ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ และวางขายในราคา 830,000 บาทเท่านั้น, พวกสกู๊ตเตอร์ก็มีนะครับ อย่าง BMW C600 Sport ( บีเอ็มดับเบิ้ลยู ซี600 สปอร์ต) ก็ออกมาวางตลาดรถบิ๊กไบค์ปี 2015 ที่มาพร้อมดีไซน์หรูหราและเครื่องยนต์ขนาดกลาง ราคา 565,000 บาท,  โดยส่งมาวางขายพร้อมกับ BMW C650 GT ( บีเอ็มดับเบิ้ลยู ซี 650 จีที ) สกู๊ตเตอร์อีกหนึ่งรุ่นในปี 2015 ราคา 599,000 บาท เรียกว่าน่าสนใจทั้งคู่เลยทีเดียว ชอบแบบไหนสไตล์ไหนก็เลือกเอาเลยนะครับ

                ส่วนใครที่ชอบมอเตอร์ไซค์แนวทัวร์ริ่ง ก็ต้อง BMW K1600 GTL ( บีเอ็มดับเบิ้ลยู เค 1600 จีทีแอล ) ราคา 1,564,000 บาท และ BMW K1600 GT ( บีเอ็มดับเบิ้ลยู เค 1600 จีที ) ราคา 1,465,000 บาท ทัวร์ริ่งเครื่องยนต์ใหญ่ 1600 ซีซีทั้งคู่ ต้องยอมรับเลยครับว่าในปี 2015 นี้ค่ายรถอย่าง BMW นั้นมาแรงจริงๆ สร้างความตื่นตาตื่นใจใน ตลาดรถ BIGBIKE ได้อย่างครึกครื้นสุดๆ จนชาวไบค์เกอร์ทั้งหลายยอมทุบกระปุกเพื่อซื้อมาเสริมบารมีกันเป็นแถวเลยแหละครับ

วันจันทร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2558

Toyota Hiace เวอร์ชั่นใหม่ รถตู้ที่เราชาวไทยต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี


 

ในแวดวงของยานยนต์ประเภทรถตู้นั้นถือว่า Toyota Hiace (โตโยต้า ไฮเอซ) ก็เป็นรถตู้ที่เราชาวไทยต่างรู้จักกันเป็นอย่างดีเพราะมันได้เข้ามาทำตลาดในเมืองไทยมาอย่างยาวนานและอยู่คู่สังคมไทยมานานเลยทีเดียว ด้วยการออกแบบที่สามารถตอบสนองความต้องการทุกประเภทและสมรรถนะของเครื่องยนต์แรงเกินห้ามใจ ก็ทำให้โตโยต้าจัดการส่ง Toyota Hiace ในเวอร์ชั่นใหม่ ออกมาให้เราได้สัมผัสกันอีกครั้งแล้ว 
หากพูดถึงภาพรวมก็ต้องบอกว่าเป็นรถตู้ที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน มีความครบเครื่องในการใช้งานค่อนข้างสูง ไม่ว่าจะเป็นภายนอกหรือภายในก็ตอบโจทย์ทุกด้าน ความสะดวกสบายถือว่าเป็นจุดเด่น ทำให้ทั้งผู้โดยสารและผู้ขับขี่สะดวกสบาย มีฟังก์ชั่นรองรับการใช้งานและใช้งานได้ง่ายอีกด้วย หากคำนึงถึงการใช้งานเป็นหลัก Toyota Hiace รถตู้รุ่นนี้สามารถตอบโจทย์ได้สบาย และนี่คือรถตู้ค่ายรถดังจากแดนปลาดิบถือเป็นอันดับ 1 ทางด้านนี้เลยก็ว่าได้

ราคารถตู้ Toyota Hiace

ราคา Toyota Hiace 939,000 บาท.

การออกแบบภายนอก Toyota Hiace

สำหรับการดีไซน์ภายนอกของ Toyota Hiace มีการดีไซน์ตัวบอดี้นั้นก็ถือว่าเป็นไปตามมาตรฐานของรถตู้ที่เอาไว้ใช้งาน โดยมีเหลี่ยมมุมที่น่าสนใจพร้อมกับฟังก์ชั่นที่เพิ่มเข้ามาเพื่อประสิทธิภาพในการขับขี่ทั้งกันชนหน้าสีเดียวกับตัวรถ, กันชนหลังก็สีเดียวกับตัวรถ พร้อมด้วยกระจังหน้าสีเงินเมทัลลิก และระบบไฟหน้าจะเป็นแบบมัลติรีเฟล็กเตอร์ ส่องสว่างทุกการเดินทาง พร้อมด้วยที่ปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบปรับตั้งเวลาได้

ในส่วนของโครงสร้าง โตโยต้า ไฮเอซ มันมาพร้อมกับโครงสร้างนิรภัยแบบ GOA ที่มีคานเหล็กนิรภัยกันกระแทกด้านข้าง โดยมีความยาวทั้งคันอยู่ที่ 4,695 มม. ในขณะที่มีความกว้างอยู่ที่ 1,695 มม. และมีความสูง 1,980 มม. ส่วนความยาวช่วงล้ออยู่ที่ 2,570 มม. และมีความกว้างช่วงล้อหน้าอยู่ที่ 1,470 มม. ส่วนความกว้างช่วงล้อหลังอยู่ที่ 1,465 มม. โดยมีรัศมีวงเลี้ยวแคบสุดอยู่ที่ 5.0 เมตร และมีน้ำหนักรถโดยประมาณที่ 1,600 กิโลกรัม
ส่วนทางด้านของความปลอดภัย Toyota Hiace ก็มีถุงลมเสริมความปลอดภัยแบบ SRS ถึง 2 จุด ทั้งในด้านของคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า โดยมีเข็มขัดนิรภัย ด้านหน้าในเบาะแถวที่ 1 ซึ่งเป็นแบบ ELR ยึด 3 จุด 2 ที่นั่ง พร้อมกับระบบดึงรั้งกลับอัตโนมัติ และ NR ยึด 2 จุด 1 ที่นั่ง โดยมีแป้นเบรกนิรภัยแบบยุบตัวได้ และวาล์วตัดน้ำมันเชื้อเพลิงอัตโนมัติ ถือเป็นรถตู้อีกรุ่นที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก

การออกแบบภายใน โตโยต้า ไฮเอซ

สำหรับการออกแบบภายในของ โตโยต้า ไฮเอซ นั้นก็ออกแบบห้องโดยสารภายในมาได้อย่างกว้างขวางกว่ารุ่นเดิมๆ โดยมีจำนวนที่นั่ง ห้องโดยสารตอนหน้า 3 นั่ง สามารถปรับเอนและเลื่อนได้เฉพาะด้านคนขับ โดยวัสดุเบาะนั่งนั้นทำจากผ้า พร้อมด้วยส่วนเสริมต่างๆ ทั้งมาตรวัดพร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่พร้อมสัญญาณเตือนมาตรวัดระดับน้ำมันเชื้อเพลิงและสัญญาณเตือนไฟเตือนไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง และสัญญาณเตือนเสียงเตือนเมื่อเสียบกุญแจค้างพร้อมด้วยที่เขี่ยบุหรี่
ส่วนไฟส่องสว่างในห้องโดยสาร มี 1 จุด พร้อมสวิตซ์ปิด-เปิดที่คนขับ โดยมีกระจกมองหลังสามารถแบบปรับลดแสงสะท้อน พร้อมกับช่องเก็บของด้านบนและล่าง และยังมีช่องเก็บของแผงประตูด้านหน้าพร้อมที่วางขวดน้ำ ส่วนที่เก็บเหรียญจะอยู่ที่คอนโซลหน้า 1 ตำแหน่ง และมีที่วางแก้วที่คอนโซลหน้า 2 ตำแหน่ง และคอนโซลกลาง 2 ตำแหน่ง พร้อมกับระบบปรับอากาศแบบธรรมดา 1 ตอน โดยที่พวงมาลัยเป็นแบบ 4 ก้าน หุ้มด้วยยูรีเธนและสามารถปรับระดับได้

สมรรถนะความปลอดภัยรถตู้รุ่นนี้
ทางด้านของสมรรถนะเครื่องยนต์ถือเป็นรถตู้ที่มีความสามารถในการใช้งานได้อย่างหลากหลาย จึงทำให้มันมาพร้อมกับเครื่องยนต์รุ่น 1KD-FTV (I/C) ซึ่งจะเป็นเครื่องยนต์ จำนวน 4 สูบ แบบแถวเรียง DOCH 16 วาล์ว เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ โดยที่มีขนาดความจุกระบอกสูบถึง 2,982 ซีซี โดยที่มีความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก อยู่ที่ 96.0 มม. x 103.0 มม. โดยมีอัตราส่วนกำลังอัดอยู่ที่ 16.0 : 1 สามารถให้กำลังสูงสุดถึง 100 แรงม้าที่ 3,400 รอบต่อนาที และมีแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 300 นิวตันเมตรที่ 2,400 รอบต่อนาที พร้อมกับระบบการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงที่เป็นแบบหัวฉีดไดเร็คอินเจคชั่น แบบคอมมอนเรล โดยใช้น้ำมันเชื้อเพลิงชนิดดีเซล พร้อมกับความจุถังน้ำมันขนาด 70 ลิตร โดยที่ได้มาตรฐานไอเสียแบบยูโร 4 อีกด้วย
ส่วนระบบเกียร์นั้นก็เป็นแบบเกียร์แบบธรรมดา 5 สปีด โดยมีอัตราการทดเกียร์ตั้งแต่เกียร์ที่ 1 ถึง 5 อยู่ที่ 4.313 ถึง 0.838 ส่วนอัตราทดเกียร์ถอยหลังจะอยู่ที่ 4.220 และมีอัตราทดเฟืองท้ายอยู่ที่ 3.727 ทางด้านของช่วงล่างนั้นก็แข็งแกร่ง ด้วยระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบอิสระดับเบิ้ลวิชโบนและทอร์ชั่นบาร์สปริง พร้อมเหล็กกันโครง ส่วนด้านหลังจะเป็นแบบแหนบซ้อนพร้อมโช้กอัพ
ทางด้านของความปลอดภัย Toyota Hiace ก็มาแบบจัดเต็มด้วยระบบเบรกด้านหน้าที่เป็นแบบดิสก์เบรก พร้อมครีบระบายความร้อน ในขณะที่ด้านหลังเป็นแบบดรัมเบรก ที่มาพร้อมระบบ Super LSPV นอกจากนี้ยังมีระบบพวงมาลัยแบบแรคแอนด์พีเนี่ยน ที่เป็นแบบเพาเวอร์ช่วยผ่อนแรง โดยที่มีล้อแบบกระทะเหล็กพร้อมฝาครอบล้อแบบเต็ม และยางขนาด 195R 15C